ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ชินวรณ์” รมว.ศธ.ฟันธงบึ้มโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น เป็นเรื่องการเมืองแน่นอน ชี้จากรายงานพบชัดเจนเป็นเช่นนั้น เหตุต้องการป่วนมุ่งเชิงสัญลักษณ์ วอนอย่าเอาโรงเรียน โรงพยาบาล ศาสนสถาน และนักเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะไม่เกิดประโยชน์ทำให้เด็กเสียขวัญ ด้าน “ผบช.ภ.3” สั่งตำรวจ 8 จังหวัดอีสานใต้ คุมเข้มสถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญ ไม่ให้ซ้ำรอยบึ้มเมืองดอกคูน โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ โคราช-อุบลฯ
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2250 อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศ ที่จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2553 ถึงกรณีเหตุระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดขอนแก่นแล้วตั้งแต่ เมื่อวานนี้( 9 ม.ค.) โดยโรงเรียนที่เกิดเหตุสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตนสั่งให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาฯ ได้ลงไปให้ขวัญกำลังใจและตรวจสอบว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยากเรียกร้องว่า โดยหลักแล้วไม่ควรเอาโรงเรียนหรือโรงพยาบาล หรือสถานที่ศาสนาไปเกี่ยวข้องกับความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันในทางการเมือง เพราะโดยหลักสากลแล้ว สถานที่เหล่านี้ได้รับการยกเว้นอยู่แล้ว
“ผมไม่อยากจะให้นักเรียนต้องเสียขวัญกำลังใจกับความไม่รับผิดชอบของบางคน หรือว่าความคิดอ่านที่ไม่สอดรับกัน อันนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ก็ว่ากันไปในการที่จะต้องปรองดองสมานฉันท์ แต่ขอร้องว่าอย่าทำกับโรงเรียน กับนักเรียนเลย” นายชินวรณ์ กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่าจะมีการสอบสวนเอาผิดกับครูเวรหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเบื้องต้นทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า เป็นความพยายามที่จะปั่นป่วนสร้างเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเด็กแห่งชาติ และเป็นสถานที่ที่ต้องการจะนำไปสู่สัญลักษณ์ทางการเมือง เพราะเป็นโรงเรียน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตามที่ทราบกันโดยทั่วไป แต่ว่าคนโดยทั่วไปเขาก็ไม่ได้ไปติดใจอะไร เพียงแต่ตนอยากเรียกร้องว่าอย่าทำกับนักเรียนหรือโรงเรียน มันจะทำให้เด็กเสียขวัญและกำลังใจ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นที่ชันเจนว่าเป็นประเด็นทางการเมือง จากการรายงานเบื้องต้นก็เป็นอย่างนั้น แต่ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องไปดำเนินการติดตามสืบสวนสอบสวนกันต่อไป” นายชินวรณ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ โรงเรียนเปรม ติณสูลานนท์ ที่ จ.ขอนแก่นนั้น ในส่วนพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เพื่อไม่ให้มีเหตุเกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ไม่สงบ หรือการก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยดูในพื้นที่สำคัญทั้งหมด ไม่ได้เจาะจงไปที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เน้นทั้งโรงเรียน สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ บ้านพักบุคคลสำคัญ และสถานที่เป็นสัญลักษณ์ต่างๆ
ส่วนกรณีที่นายไทกร พลสุวรรณ ประธานชมรมไทยเป็นหนึ่งเดียว ออกมาระบุว่าจะมีการก่อวินาศกรรมในพื้นที่ 5 จังหวัดอีสานโดย 2 ใน 5 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี เป็นเป้าหมายนั้น ในทางการข่าวของตำรวจภูธรภาค 3 มีรายงานเรื่องนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.เดชาวัตกล่าวว่า เราให้ความระมัดระวังอยู่ทุกจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี เพราะว่าการก่อเหตุร้ายสามารถทำได้ทุกจังหวัด ถ้าหากเจ้าหน้าที่เราอ่อนแอ และหลักสำคัญคือเราคงจะไม่ประมาททุกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ยังไม่มีข่าวเชิงลึกในเรื่องนี้ แต่มีการประสานงานกันอยู่กับทางการข่าวตำรวจสันติบาล และตำรวจในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัด แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่ชัดเจน แต่เราได้ดำเนินการในการตั้งด่านตรวจสกัดอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ที่อาจใช้ในการก่อเหตุร้ายและปราบปรามยาเสพติดแบบบูรณาการ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงการระดมกวาดล้างห้วงที่ 2 ที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์สูง
“ไม่ได้ห่วงจังหวัดใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ จ.นครราชสีมา กับ จ.อุบลราชธานีเป็นจังหวัดใหญ่ และเป็นชุมชนใหญ่ เหตุต่างๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะความหนาแน่นของประชากรและความหนาแน่นของที่อยู่อาศัย”พล.ต.ท.เดชาวัตกล่าวในที่สุด