xs
xsm
sm
md
lg

ยอด 7 วันอันตรายกาฬสินธุ์เสียชีวิต 3 เจ็บ 32 คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่หรือ 7 วันอันตราย
กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 7 วันอันตราย ตาย 3 ราย บาดเจ็บ 32 คน เกิดอุบัติเหตุรวม 30 ครั้ง พร้อมเดินหน้ารณรงค์ปี 54 สวมหมวกนิรภัย 100% ในทุกพื้นที่

วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2554 หรือ 7 วันอันตราย

พร้อมกับปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ขณะเดียวกันได้ร่วมกันเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย 100% ในปี 2554

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 จังหวัดกาฬสินธุ์ มีจุดตรวจทั้งหมด 340 จุด ครอบคลุม 18 อำเภอ มีการเรียกตรวจยานพาหนะชนิดต่างๆ ตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร และบวก 4 มาตรการ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ขับรถย้อยศร แซงในที่คับขันและใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถรวมทั้งสิ้น 50,127 คัน

ถูกดำเนินคดี 2,188 ราย เกิดอุบัติเหตุรวม 30 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 32 คน เสียชีวิต 3 ราย โดยยานพานะที่เกิดเหตุสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ และสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุ คือ มอเตอร์ไซไม่ปลอดภัย ไม่สวมหมวกนิรภัยและเมาแล้วขับ ภาพรวมการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุได้ร้อยละ 35 แต่ผู้เสียชีวิตเท่ากันกับปีที่ผ่านมาคือ 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บลดลงร้อยละ 44.83

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดกาฬสินธุ์จะเดินหน้ารณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง โดยจะขับเคลื่อนการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ครอบคลุม 18 อำเภอ ภายในปี 2554 รวมทั้งการรณรงค์ 3 ม 2 ข และ 1 ร โดยจะเริ่มรณรงค์ในส่วนราชการ และเยาวชนในสถานศึกษา ตลอดจนกลุ่มเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพและขยายเครือข่ายให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้รอดพ้นจากการเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างยั่งยืนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น