xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาปรังสองฝั่งยมตั้งตารอคิวปล่อยน้ำ-โวยงบภัยแล้งยังไม่ถึงพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ – ภัยแล้งเมืองแพร่ยังคงขยายวงกว้างมากขึ้นไม่หยุด ชาวนา 2 ฝั่งยมที่ยังยึดมั่นทำนาปรัง ต้องตั้งตารอคิวปล่อยน้ำเป็นที่ตั้ง เผยแม้จังหวัดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติได้งบตรึม แต่ถึงวันนี้ ยังไร้เงาความช่วยเหลือใดๆ ลงถึงพื้นที่

ชาวนาใน อ.เมือง อ.หนองม่วงไข่ และ อ.สอง จ.แพร่ กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ไม่สามารถหาน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติบนผิวดินอีกต่อไป คลองส่งน้ำแม่ยมทั้ง 2 ฝั่งซ้าย-ขวา ที่กรมชลประทานผันน้ำจากแม่น้ำยมมาหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรม ตั้งแต่ อ.สอง อ.หนองม่วงไข่ อ.เมือง อ.สูงเม่น และ อ.เด่นชัย ปัจจุบันมีน้ำไหลไม่ตลอดลำคลอง พวกเขาถึงกับต้องแย่งน้ำ เกิดข้อพิพาทรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

นายประทัน ก๋องแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 ต.แดนชุมพล อ.สอง จ.แพร่ 1 ในชาวนาที่ต้องเผชิญกับสภาวะภัยแล้ง กล่าวว่า ข้าวนาปรังของเขากำลังตั้งท้องออกรวง กว่า 30 ไร่ แต่ขณะนี้ปัญหาใหญ่คือไม่สามารถหาน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้ ต้องรอคิวปล่อยน้ำมาให้ ซึ่งก็คงไม่ทันการ อีกทั้งกลุ่มทำนาในบริเวณเดียวกันมีหลายร้อยไร่ ต้องรอน้ำเหมือนกัน

“ที่ผ่านมา มีข่าวการใช้งบประมาณช่วยเหลือภัยแล้งจำนวนมาก แต่ไม่เห็นมีหน่วยงานรัฐหน่วยใดเลยที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ ถ้ามีงบประมาณจริง ชาวนาในกลุ่มเดือดร้อนใกล้ๆ กันต้องการให้ขุดบาดาล เพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้ในช่วงที่แล้งจัด น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่ไม่เห็นมีหน่วยไหนมาให้การช่วยเหลือ พวกเราต้องเผชิญชะตากรรมด้วนตนเอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความแห้งแล้งแผ่วงกว้างออกไปในพื้นที่จังหวัดแพร่ ถึงแม้ว่าปีนี้ภัยแล้งรุนแรงกว่าทุกปี แต่พบว่าเกษตรกรส่วนหนึ่งเลือกปลูกข้าวโพดและถั่วเหลือง ในช่วงนี้กำลังอยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยว ซึ่งไม่มีปัญหาการใช้น้ำอีกต่อไป ส่วนที่ยังเป็นปัญหาคือชาวนาที่ยังคงยึดอาชีพทำนาปรังในช่วงฤดูแล้ง ต้องเผชิญปัญหาอย่างหนัก

ในขณะที่จังหวัดแพร่ออกประกาศเป็นจังหวัดที่เผชิญภัยพิบัติ ซึ่งจะได้รับงบประมาณมาช่วยเหลือ และมีการใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า ชาวนาหลายอำเภอยังคงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้องค์กรพัฒนาเอกชนในจังหวัดแพร่ ที่เฝ้ามองมาตลอด เชื่อว่า น่าจะมีปัญหาเรื่องทุจริตในการใช้งบประมาณภัยแล้งตามมาด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น