ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศพแรงงานไทยเหยื่อจรวด “ปาเลสไตน์” ยิงถล่ม “อิสราเอล” กลับถึงแผ่นดินเกิดแล้ว ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านภรรยา อ.สูงเนิน โคราช รวม 4 วัน กำหนดฌาปนกิจวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.นี้ ด้านสถานทูตอิสราเอล-ก.ต่างประเทศ รับเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพวันแรก ขณะแรงงานจังหวัด เตรียมประสานขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุน 4 หมื่นบาทให้ทายาท ส่วนทางการอิสราเอลให้การช่วยเหลืออีกกว่า 1 ล้าน
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่บ้านเลขที่ 84 ม.9 บ้านส้มกบงาม ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายมณี สิงห์เมืองพล อายุ 33 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์กองกำลังปาเลสไตน์ยิงจรวดถล่มนิคมเกษตรกรรม “นาทีฟ ฮาอาซารา คิบบุทซ์” ทางภาคใต้ของประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเดินทางมาเคารพศพอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังกระทรวงการต่างประเทศ ประสานนำศพนายมณี มาส่งให้ญาติตั้งบำเพ็ญกศุลตามประเพณีช่วงเย็นวานนี้ (24 มี.ค.)
ทั้งนี้ มี นางสุจิตรา อิ่มสูงเนิน อายุ 24 ปี ภรรยา พร้อม ด.ช.ธนกฤต สิงห์เมืองพล อายุ 3 ขวบลูกชาย และ นางนกน้อย อิ่มสูงเนิน แม่ยาย รวมถึง นายทองคำ สิงห์เมืองพล พี่ชายคอยให้การต้อนรับแขกที่มาร่วมงานบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางสุจิตรา อิ่มสูงเนิน ภรรยา นายมณี สิงห์เมืองพล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานนำศพ นายมณี สามี มาตั้งบำเพ็ญไว้ที่บ้านตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (24 มี.ค.) โดยมี นายฮานอค อเมดิ เจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย, นายแสงเงิน ขาวลิขิต จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา และ นางสาว กุนทินี อักษรวงศ์ หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวนครราชสีมา กระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพในวันแรก
ส่วนวันนี้ญาติพี่น้องจะเป็นเจ้าภาพสวดศพ จากนั้นวันที่ 27 มี.ค.นี้จะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่วัดบ้านสัมกบงาม ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
“มาถึงวันนี้ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของสามี เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ตั้งตัวไม่ทัน และยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองกับลูกชายวัย 3 ขวบ ว่า จะทำอย่างไรต่อไป ขอให้เสร็จจากงานศพของสามีก่อนจึงจะคิดอีกทีหนึ่ง” นางสุจิตรา กล่าวด้วยใบหน้าหมองเศร้า
ด้าน นายแสงเงิน ขาวลิขิต จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน ของ นายมณี และผู้รับผลประโยชน์ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวโดยการขอรับเงินช่วยเหลือ จากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีที่เสียชีวิตในระหว่างการทำงานในต่างประเทศจำนวน 40,000 บาท และทางการอิสราเอลจะให้การช่วยเหลือในเรื่องเงินประกันสังคมและเงินช่วยเหลืออื่นๆ อีกรวมประมาณกว่า 1 ล้านบาท
