หางแดง ชร.รวมคนได้หยิบมือ-ตั้งขบวนแห่ทั่วเมืองไร้คนสนใจ

เชียงราย – หางแดงเชียงรายรวมคนได้หยิบมือ ใช้รถยนต์ 17 คัน – จยย.13 คัน ตั้งขบวนแห่ทั่วเมือง ประกาศแนวทางตัวเองภายใต้ข้ออ้างเพื่อ ปชต. แต่กลับไร้คนสนใจ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (21 มี.ค.) กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่เชียงราย ซึ่งปักหลักชุมนุมทำเวทีคู่ขนานและถ่ายทอดการปราศรัยจากเวทีใหญ่กรุงเทพฯ อยู่ที่ลานหน้าโรงแรมแสนภูเพลส ถนนบรรพปราการ อ.เมืองเชียงราย ได้พากันเอาอย่างเวทีใหญ่เมื่อวันก่อนด้วยการรวบรวมสมัครพรรคพวกคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่ม ให้ไปร่วมกันที่หน้าโรงแรมแสนภูเพลส ตั้งขบวนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ตระเวณออกปราศรัยประชาสัมพันธ์แนวทางการต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ผู้คนในเขตเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาล ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย

แกนนำที่ดำเนินการในครั้งนี้ประกอบด้วย คนไม่ได้เดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ เช่น นายมาณพ ชินะกุล ผู้ถูกยกให้เป็นประธานกลุ่มแดงเชียงรายโดยการประชุมที่ร้าน Red Shop ,นายวีระ ชมภูวิเศษ แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายรักประชาธิปไตย, นายบุญเลิศ หรือธนากร บุญศรี ประธานกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย ฯลฯ

หลังจากได้มีการรวมกลุ่มกันได้พักใหญ่ก็ได้สมาชิกเป็นรถยนต์ 17 คัน – จยย.13 คัน เคลื่อนออกจากหน้าโรงแรมแสนภูเพลส ไปตามถนนบรรพปราการไปทางด้านหน้าโรงเรียนสามัคคีวิทคมซึ่งอยู่ติดกับเวที

จากนั้นกลุ่มรถคนเสื้อแดงทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ ได้พากันตระเวณไปตามถนนธนาลัยภายในเขตเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ก่อนจะขึ้นสู่ถนนพหลโยธิน บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช และเคลื่อนขบวนต่อไปจนถึงพื้นที่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 8 กิโลเมตร ก่อนจะวกขบวนกลับคืนสู่บริเวณหน้าเวทีที่หน้าโรงแรมแสนภูเพลสเช่นเดิม

ทั้งนี้ตลอดขบวนมีการใช้เครื่องเสียงปราศรัย เกี่ยวกับการเรียกร้องประชาธิปไตยและให้รัฐบาลยุบสภาท่ามกลางการออกมายืนดูของประชาชนตามรายทาง ซึ่งทราบเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านทางสื่ออยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปมากนัก ก่อนที่ขบวนคนเสื้อแดงจะปฏิบัติการแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

นายบุญเลิศ กล่าวว่า การเคลื่อนขบวนดังกล่าวเป็นไปตามปกติโดยไม่มีกิจกรรมอื่นใด โดยเคลื่อนไปตามถนนจากเขตเทศบาลนครเชียงรายไปสู่ ต.บ้านดู่ จากนั้นก็วกกลับมาปราศรัยเช่นเดิม ส่วนภาคกลางคืนก็จะมีการถ่ายทอดสดเวทีใหญ่ที่กรุงเทพฯ ต่อไปจนถึงวันที่ 24 มี.ค.จึงจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่งต่อไป