ชัยภูมิ - แกนนำแดงถ่อยชัยภูมิ แก๊ง ส.ส.“ทาสแม้ว” เร่งเกณฑ์คนเข้ากรุงระลอก 2 สมทบชุมนุมเคลื่อนพลครั้งใหญ่ปิดตายกรุงเทพฯ 20 มี.ค.แต่จ๋อยชาวบ้านร่วมน้อย เหตุไม่พอใจถูกแกนนำหักหัวคิวค่าจ้างร่วมม็อบ 2,000 บาท จ่ายแค่ 1,500 บาท อีกทั้งผวากลัวเกิดเหตุรุนแรงได้รับอันตราย แฉร่วมชุมนุมกรุงเทพฯ ถูกปิดหูปิดตาและออกไปไหนไม่ได้ ทำให้ไม่ได้รับรู้ข่าวสารสถานการณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงชัยภูมิได้เคลื่อนไหวระดมมวลชนกันอีกครั้ง หลังจากเกณฑ์ชาวบ้านเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดงทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยที่บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารศูนย์บริการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ตรงข้ามอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ห่างจากสถานที่ราชการสำคัญของจ.ชัยภูมิราว 50 เมตร ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 5-6 คน มารวมตัวกันตั้งจุดระดมคน พร้อมจัดตั้งโต๊ะกล่องบริจาค ปักธงแดง และนำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง และรูปนักโทษชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีรอบคัน มาจอดไว้
รายงานข่าวแจ้งว่า การเคลื่อนไหวระลอกนี้ เกิดจากกกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ทยอยเดินทางกลับบ้านเกือบหมดแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวเกิดความขัดแย้งเรื่องการอมเงินค่าหัวคิวจ้างชาวบ้านเข้าร่วมชุมนุม หัวละ 2,000 บาท แต่ทางแกนนำจ่ายให้เพียงรายละ 1,500 บาท ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์ไปร่วมชุมนุมเป็นอย่างมาก ทำให้มวลชนส่วนหนึ่งขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับบ้านเองก่อนกำหนด
ส่งผลให้ม็อบคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ลดลงจำนวนมาก จนทางแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงชัยภูมิ ต้องเร่งเตรียมระดมคนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ เพิ่มอีกในวันนี้ (19 มี.ค.) เพื่อเข้าสมทบให้มีจำนวนมากพอกับการเคลื่อนไหวที่ทางแกนนำ นปช.กลางได้ประกาศเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้ ( 20 มี.ค.)
ทั้งนี้ การเกณฑ์มวลชนดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจาก กลุ่มนักการเมือง และ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในพื้นที่ ซึ่งได้จัดรถโดยสารมารอรับคนเสื้อแดงอยู่ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารศูนย์บริการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิดังกล่าว และ รถโดยสารส่วนหนึ่งได้ออกตระเวนไปรับชาวบ้านจากต่างอำเภอ เช่น อ.หนองบัวแดง อ.แก้งคร้อ เพื่อเดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ
แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน เพราะจากกระแสข่าวการหักเงินค่าหัวคิว อีกทั้งชาวบ้านที่ได้ติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ พากันหวั่นเกรงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นและได้รับอันตรายจากการเข้าร่วมชุมนุม
ในขณะที่ญาติของคนเสื้อแดงชัยภูมิที่ได้เดินทางกลับมาจากการชุมนุมใหญ่ที่ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า อยู่ที่บ้านตนได้ดูข่าวสารตลอด ทั้งจากทีวีคนเสื้อแดง (สถานีโทรทัศน์พีเพิลแชนแนล) หรือจากสื่อต่างๆ หวั่นกลัวจะเกิดเหตุรุนแรงทำให้ญาติพี่น้องที่เข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ จะได้รับอันตราย จึงได้โทรศัพท์ไปเรียกให้กลับบ้าน ซึ่งญาติที่กลับมาเล่าให้ฟังว่า ตอนอยู่ในที่ชุมนุมนั้นไม่รู้เรื่องข่าวสารอื่นเลย เพราะไม่มีทีวีดู ต้องฟังแต่แกนนำพูด จะออกจากที่ชุมนุมไปไหนก็ไม่ได้ เพราะแกนนำต้องการทำให้บรรยากาศในที่ชุมนุมคึกคักโดยไม่สนใจไม่รับรู้ว่าสถานการณ์นอกที่ชุมนุมเป็นอย่างไร
“หากที่บ้านไม่โทร.ไปบอกก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อทราบแล้วก็รู้สึกกลัวจึงขอกลับบ้านดีกว่า และเมื่อมีคนมาชวนไปอีกก็ไม่ไปแล้ว แต่ถามว่าได้เงินค่าจ้างเท่าไหร่นั้น ไม่ขอตอบ” ญาติคนเสื้อแดงชัยภูมิ คนเดิมกล่าว
ทางด้านการรักษาความปลอดภัยศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ และสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ ทางจังหวัดชัยภูมิ โดย นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งให้มีการเตรียมความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ, อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 2 กองร้อย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสั่งตรวจยานพาหนะที่เข้าออกบริเวณศาลากลางจังหวัดอย่างเข้มงวด และได้ปิดทางเข้าออกศาลากลางจังหวัดให้เข้าออกเพียงด้านเดียว
