กาฬสินธุ์ - ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรอำเภอยางตลาด แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ หลังวางแผนล่อซื้อจากวัยรุ่นในพื้นที่ ก่อนขยายผลรวบได้ยกแก๊ง โดยเฉพาะผู้ต้องหารายหนึ่งซึ่งเป็นหนุ่มใหญ่จากปักษ์ใต้ จากการตรวจค้นที่พักยังพบอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก ที่คาดว่าจะนำมาก่อเหตุร้ายและสร้างสถานการณ์รุนแรง ขณะที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ รวบ 2 ผัวเมียซุกยาบ้าในรถขณะเดินทางข้ามจังหวัดส่งยาบ้า
วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 09.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธร อ.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ประมาณ คุ้มวงศ์ดี ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประยุทธ อรัญโชติ รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.สุทธิสม ตระแก้วจิตร รอง ผกก.ปราบราม พ.ต.ท.อุทัย เพ็งธรรม สว.สส.พร้อมชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด นำตัว นายเกรียงศักดิ์ นารมย์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 นางบุญศรี ทิศสว่าง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ภรรยานายเกรียงศักดิ์ นางบุบผา ภูนบทอง อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 17 หมู่ 7 และนางวะราพร ภูพาดแร่ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 9
ทั้งหมดเป็นราษฎรตำบลดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาเสพและมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ครอบครอง พร้อมของกลางประกอบด้วยยาบ้า จำนวน 8 เม็ด โทรศัพท์ 3 เครื่อง อาวุธปืนอาร์ก้า 1 กระบอก แมกกาซีน 1 ชุด กระสุน 10 นัด และเงินสดจำนวน 2,900 บาท
พ.ต.อ.ประมาณ คุ้มวงศ์ดี ผกก.สภ.ยางตลาด กล่าวว่า จากการดำเนินการกวาดล้างยาเสพติด ตามนโยบายของ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะให้กวดขันในช่วงปิดภาคเรียน และเกิดความวุ่นวายด้านสถานการณ์การเมือง ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถือโอกาสนำพายาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด สภ.ยางตลาด ได้พบเบาะแสว่ามียาบ้าแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่
จึงได้วางแผนล่อซื้อจาก นางบุบผา และขยายผลไปถึง นางวะราพร และนางบุญศรี จนสามารถจับได้ยกแก๊งที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำปาว ก่อนที่จะเข้าจับกุมนายเกรียงศักดิ์ได้ที่บ้านพัก จากการตรวจค้นบริเวณที่พัก ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เนื่องจากได้พบอาวุธสงครามอานุภาพร้ายแรง เป็นปืนอาร์ก้าและกระสุนพร้อมยิงจำนวน 10 นัดอีกด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ประยุทธ อรัญโชติ รอง ผกก.สืบสวน สภ.ยางตลาด กล่าวว่า จากการตรวจค้นและพบอาวุธสงคราม ที่ นายเกรียงศักดิ์ มีไว้ครอบครอง สอบสวนเบื้องต้นนายเกรียงศักดิ์ อ้างว่า อาวุธดังกล่าวเป็นของเพื่อนที่นำมาฝากไว้
อย่างไรก็ตาม ก็เป็นประเด็นที่ต้องคิดไปถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะจากการสืบค้นประวัติยังพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว มีภูมิลำเนาเป็นคนปักษ์ใต้ (อ.สิชล จ.สุราษฎร์ธานี) เคยเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุก ก่อนที่จะขึ้นมาอยู่กินกับนางบุญศรี ที่ จ.กาฬสินธุ์ และถูกจับในข้อหาร่วมกับพวก มียาเสพติดประเภทที่ 1 และอาวุธสงครามไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ฯจะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากอาจจะมีขบวนการก่อการร้าย แทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ในช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองไม่สงบก็อาจเป็นได้
ขณะเดียวกัน ที่ สภ.กุฉินารายณ์ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด และสายตรวจจราจรของ สภ.กุฉินารายณ์ จับ 2 ผัวเมียชาว อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซุกยาบ้าในรถขณะเดินทางส่งยาบ้าข้ามจังหวัด
โดย พ.ต.อ.บรรพต เทพพานิช ผกก., พ.ต.ท.สมชาย ภูกองชนะ พงส.(สบ3), พ.ต.ต.มงคล จันทะวงษ์ สวป., ร.ต.ท.สนามชัย ปุ๊กกระโทก รอง สว.จร.พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด และสายตรวจจราจรของ สภ.กุฉินารายณ์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุวิทย์ ละอองคำ อายุ 34 ปี และ นางกิ่งกนก ละอองคำ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนอำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ได้พร้อมของกลาง ยาบ้าชนิดสีส้ม จำนวน 172 เม็ด รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ ทะเบียน บท 7097 มหาสารคาม จำนวน 1 คัน และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
พ.ต.อ.บรรพต เทพพานิช ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า ได้ตั้งจุดตรวจ เพื่อทำการตรวจค้นยาเสพติดที่บริเวณสี่แยกบ้านนาไคร้ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บท 7097 มหาสารคาม วิ่งมาจากทาง จ.มุกดาหาร มุ่งหน้าไปทาง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจใบขับขี่ แต่คนขับรถมีอาการตื่นตกใจ มีพิรุธจึงได้ขอตรวจค้นรถยนต์โดยละเอียด
ประกฏว่า พบยาย้าจำนวน 172 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าแบบกดปิดดึงเปิด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าของนางสาวกิ่งกนก จึงได้ทำการจับกุม โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.สุขสวัสดิ์ โคตรคำ พงส.(สบ1) พนักงานสอบสวนเวร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป