ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 แถลงผลระดมกวาดล้างคดีค้างเก่า ตามจับผู้ต้องหามาได้ 13 ราย ขณะหลบหนีเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ เผย ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับทรัพย์ และคดีข่มขืน ด้าน ผบช.ภ.3 ระบุ 8 จังหวัดอีสานล่างเหลือคดีค้างเก่าที่ยังตามจับผู้ต้องหาไม่ได้อีกกว่า 100 คดี สั่งตำรวจเร่งไล่ล่าจับกุม
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภาค 3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม รอง ผบช.ภาค 3 และ พล.ต.ต.นิคม อินเฉิดฉาย ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงผลระดมกวาดล้างคดีหมายจับค้างเก่าในพื้นที่ ความรับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ได้ผู้ต้องหาทั้งสิ้น 13 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 1 ราย ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ คดี มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง พากพาอาวุธ, ร่วมกันลักทรัพย์, ยักยอกทรัพย์, ฉ้อโกงทรัพย์, พรากผู้เยาว์, กระทำอนาจารเด็ก, ลักทรัพย์, ข่มขืน และ ข่มขืนอนาจาร
พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า คดีค้างเก่าในพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 จนถึงขณะนี้ยังมีเหลืออีกกว่า 100 คดี ที่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาได้ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีมารับโทษให้ได้ทั้งหมด
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าทั้ง 13 รายครั้งนี้ พบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภูมิลำเนาและพื้นที่ก่อเหตุ
โดยหลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ บางส่วนไปทำงานรับจ้าง เป็นคนงานก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกับตำรวจท้องที่จับตัวกลับมาได้ เป็นผลการปฏิบัติงานของชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ที่ได้ติดตามดำเนินการจับกุม