สระแก้ว - สสจ.สระแก้ว เตือนครีมทาผิวขาว “เบ๋าดั๋ม” ระบาด หลังสาวเขมรใช้พอกตัว จนเกิดอาการแพ้ จนเสียชีวิต
นพ.ยุทธพงษ์ ศรีมงคล นายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกัน เชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ออกสุ่มตรวจเครื่องสำอางในตลาดโรงเกลืออยู่เป็นระยะๆ แล้วยังได้ร่วมกับทหาร ร้อย ทพ.ที่ 1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กองกำลังบูรพา ที่รับผิดชอบด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา บ้านคลองลึก ตรวจสอบเครื่องสำอาง ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ไม่ให้ลักลอบข้ามมาจำหน่ายฝั่งไทย
ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเล็ดลอดเข้ามา ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศจีนและเวียตนาม โดยเป็นสินค้าเลียนแบบและไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. โดยนำสารห้ามใช้หรืออันตรายมาผสมกับเครื่องสำอาง เช่น ไฮโดรควิโนนที่ทำให้เซลสร้างเม็ดสีตาย เกิดผิวเป็นด่างขาวหรือฝ้าถาวร ปรอทแอมโมเนีย ซึ่งผู้ใช้จะได้รับพิษสะสมจากปรอท ซึ่งจะไปทำลายไตและอาจทำให้เกิดมะเร็งที่ผิวหนัง
นอกจากนั้นยังมีกรดวิตามินเอ เมื่อถูกผิวหนังจะมีผลทำให้แสบ ร้อน แดง คัน ผิวลอก เป็นต้น โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาตลาดโรงเกลือ แล้วนิยมเลือกซื้อไปใช้ เพราะเห็นว่าราคาถูก หรือมีคนอื่นเคยซื้อไปใช้จึงลองซื้อไปใช้บ้าง แต่เมื่อเกิดอันตรายก็ไม่กล้าบอกใคร อย่างมากก็ไปหาแพทย์รักษาหายแล้วก็ไม่ใช้อีก
นพ.ยุทธพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีเครื่องสำอางที่หญิงชาวกัมพูชาใช้พอกตัวแล้วเสียชีวิตนั้น จากการดูฉลากข้างและด้านบนกระปุกเป็นภาษาเวียตนาม ยี่ห้อ BAO DAM “เบ๋าดั๋ม” ลักษณะเป็นกระปุกสีขาว เนื้อครีมสีเหลืองและมีผงดำๆ ผสมอยู่ ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีสารพวกโลหะหนักเป็นส่วนผสม ทำให้ผิวขาว เมื่อได้รับสารปริมาณมากก็จะทำให้ตับวาย ไตวาย และติดเชื้อในกระแสเลือดจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคได้เก็บตัวอย่างครีมดังกล่าวส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์น่าจะทราบผล
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาอรัญประเทศ ที่ประจำอยู่ด่านชายแดนบ้านคลองลึก ทราบว่าครีมเบ๋าดั๋ม มีขายอยู่ในตลาดโรงเกลือมาระยะหนึ่งแล้วและกำลังเป็นที่นิยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าจากหลายจังหวัดซื้อไปใช้และขายตามตลาดนัดหรือร้านตามหมู่บ้านตามจังหวัดต่างๆ จำนวนมาก ในขณะที่เริ่มมีครีมตัวใหม่จากประเทศเวียตนามชื่อ “JICO” ออกวางขายเช่นกัน แต่หลังจากเป็นข่าวมีชาวกัมพูชาซื้อไปใช้แล้วเสียชีวิต ทำให้ร้านขายเครื่องสำอางในตลาดโรงเกลือที่มีอยู่ 42 ร้าน ได้เก็บครีมดังกล่าวรวมทั้งครีมที่มีภาษาเวียดนามออกไปจากร้าน ไม่มีวางขาย
“ขอเตือนไปยังประชาชนให้เลือกซื้อเครื่องสำอางจากร้านที่มีหลักแหล่งแน่นอน เชื่อถือได้ ขอให้ระมัดระวังในการซื้อเครื่องสำอางจากตลาดนัด ตลาดค้าบริเวณชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีฉลากภาษาไทย ขอให้เลือกซื้อเฉพาะเครื่องสำอางที่มีฉลากภาษาไทย ระบุชื่อและชนิดของเครื่องสำอาง ส่วนประกอบสำคัญ สถานที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิต วิธีใช้ คำเตือน และปริมาณสุทธิ หากใช้แล้วเกิดอาการแพ้ให้หยุดใช้ทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์” นพ.ยุทธพงษ์ กล่าว