กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอความร่วมมือเกษตรกรงดขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในเขตชลประทาน เนื่องจากปริมาณในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อย พร้อมเตือนประชาชนระวังพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ปีนี้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพลำน้ำปาว ลำน้ำชี พบว่าปริมาณน้ำลดน้อยลงกว่าปกติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ในเขตพื้นที่ชลประทาน ซึ่งกำหนดให้มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไว้จำนวน 250,000 ไร่ แต่ผลสำรวจขณะนี้พบว่าเกษตรกรได้ขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีกกว่า 60,000 ไร่ นับว่าเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากภัยแล้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเหลืออยู่เพียง 709 ล้าน ลบ.ม.จากปริมาณกักเก็บที่ 1,430 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 49 ของความจุอ่าง และในแต่ละวันจะต้องส่งน้ำลอยคลองถึงวันละ 6 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะไม่เพียงพอเพราะยังมีเกษตรทำนากุ้งก้ามกรามในพื้นที่ จึงขอเตือนให้เกษตรกรงดขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเพื่อป้องกันความเสียหาย
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากระยะนี้มีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนสภาพอากาศแปรปรวนที่จะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน ขอเตือนประชาชนระวังภัย หลีกเลี่ยงการออกไปในที่โล่งแจ้งขณะสภาพอากาศวิปริตเพื่อป้องกันพายุฟ้าผ่า
สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดพายุฤดูร้อนแล้ว 4 ครั้งในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 800 หลังคาเรือน
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ปีนี้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสภาพลำน้ำปาว ลำน้ำชี พบว่าปริมาณน้ำลดน้อยลงกว่าปกติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ในเขตพื้นที่ชลประทาน ซึ่งกำหนดให้มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไว้จำนวน 250,000 ไร่ แต่ผลสำรวจขณะนี้พบว่าเกษตรกรได้ขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีกกว่า 60,000 ไร่ นับว่าเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากภัยแล้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเหลืออยู่เพียง 709 ล้าน ลบ.ม.จากปริมาณกักเก็บที่ 1,430 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 49 ของความจุอ่าง และในแต่ละวันจะต้องส่งน้ำลอยคลองถึงวันละ 6 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะไม่เพียงพอเพราะยังมีเกษตรทำนากุ้งก้ามกรามในพื้นที่ จึงขอเตือนให้เกษตรกรงดขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเพื่อป้องกันความเสียหาย
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากระยะนี้มีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนสภาพอากาศแปรปรวนที่จะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน ขอเตือนประชาชนระวังภัย หลีกเลี่ยงการออกไปในที่โล่งแจ้งขณะสภาพอากาศวิปริตเพื่อป้องกันพายุฟ้าผ่า
สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดพายุฤดูร้อนแล้ว 4 ครั้งในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 800 หลังคาเรือน
