สุโขทัย - ชาวนาสุโขทัยยังไม่หมดเคราะห์กรรม หลังเจอวิกฤตรุมหลายด้าน ทั้งราคาข้าวตกต่ำเหลือแค่ตันละ 6,000 กว่าบาท-รัฐจ่ายเงินให้ช้า-ภัยแล้งที่ลุกลามอย่างหนักทั้ง 9 อำเภอ ล่าสุด ยังต้องมาเจอกับกองทัพเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลนับล้านๆ ตัว ออกอาละวาดรอบที่ 2 บุกทำลายกัดกินนาข้าว จนได้รับความเสียหายแล้วนับแสนไร่
นายชัด สิงห์สนิท เกษตรกรหมู่ 1 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ บอกว่า ตนเองทำนาทั้งหมด 65 ไร่ และกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จากปัญหาเพลี้ยกระโดดระบาด เป็นรอบที่ 2 เพราะต้องเสียเงินค่ายาฉีดพ่นเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนบ้านอีกหลายคนต้องเสียเงินกว่า 1 แสนบาท เพราะทำนาเป็นร้อยไร่
“ตอนนี้ต้นทุนการทำนาสูงมาก ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน ค่าจ้างรถเกี่ยว และค่าจ้างฉีดพ่นยา แต่ราคารับซื้อข้าวเปลือกกลับตกต่ำลง และขณะนี้ปัญหาภัยแล้งก็กำลังคุกคามทั้งจังหวัดสุโขทัย ชาวนาหลายรายต้องจ่ายเงินซื้อน้ำเพื่อใช้ทำนา”
นายสมพร สีฟ้า เกษตรกรหมู่ 4 ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ บอกว่า นอกจากปัญหาเพลี้ยกระโดดระบาด กับราคาข้าวเปลือกตกต่ำ รวมทั้งภัยแล้งในหลายพื้นที่แล้ว ยังมีปัญหาที่ชาวนาเดือดร้อน คือ เรื่องโครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือกของรัฐบาล ที่จ่ายเงินล่าช้านาน 2-3 เดือนกว่าจะได้ ทำให้ชาวนาไม่มีเงินทุนทำนาครั้งต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ต้องมานั่งเครียดกับปัญหาถูกทวงหนี้ จากบรรดาเจ้าหนี้ต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ จ.สุโขทัย ในพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอ ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว มีการปลูกข้าวนาปรัง จำนวน 735,595 ไร่ เฉพาะ อ.กงไกรลาศ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีพื้นที่ทำนาปรัง จำนวน 219,513 ไร่ ทั้งหมดอยู่ระหว่างเก็บเกี่ยว และได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง จากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในครั้งนี้