เชียงราย – หางแดงเรือนสิบเข้าทำบัตร นปช.ที่เชียงราย ขณะที่แกนนำโอ่ มีคนแจ้งความจำนงเข้าร่วมขบวนเคลื่อนไหว 14 มี.ค.แล้วกว่า 5 พัน พร้อมรถอีกกว่า 400 คัน สวนทางยอดมวลชนที่เคยเคลื่อนไหวร่วมหลายครั้งก่อนหน้านี้
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (3 มี.ค.) ณ อาคารเอนกประสงค์ชุมชนสันโค้งน้อย เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงราย นำโดยกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย ได้จัดให้ทำบัตรสมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อนำไปใช้ในการเคลื่อนไหวชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ที่กรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่จาก นปช.ส่วนกลางจำนวน 3-4 คน นำเครื่องมือและอุปกรณ์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายภาพ เครื่องทำเอกสาร บัตรและสายคล้องคอ ฯลฯ มาทำบัตรให้
ช่วงเช้า มีคนเสื้อแดงจากหลากหลายกลุ่มทั้งกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ชมรมคนรักทักษิณเชียงราย 49 ฯลฯ พากันเดินทางไปรอคิวทำบัตรประมาณ 50 คน โดยมีการเก็บค่าทำบัตรคนละ 30 บาท แต่หากต้องการสายคล้องคอก็เพิ่มเงินอีก 30 บาท รวมเป็นจำนวน 60 บาท
สำหรับการสมัครมีการจัดให้คนเสื้อแดงกรอกข้อมูลลงในใบสมัครเป็นสมาชิก ตีตราและหัวเอกสารของกลุ่ม นปช. ภายในให้กรอกข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประจำตัวตัวประชาชน ประวัติการศึกษา การติดต่อ อาชีพ ฯลฯ จนไปถึงประสบการณ์ทางการเมือง เมื่อกรอกเสร็จก็จัดให้แต่ละคนเข้าแถวถ่ายภาพหน้าตรงเพื่อพิมพ์ออกมาประกอบบัตรพร้อมกรอบพลาสติก ก่อนให้มีการชำระเงินและรับบัตรหรือสายคล้องคอต่อไป
นายบุญเลิศ หรือธนากร บุญศรี ประธานกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย เปิดเผยว่า การทำบัตรดังกล่าวก็เพื่อป้องกันมือที่สองหรือที่สามจะเข้าไปปั่นป่วนหรือก่อเหตุร้ายแล้วโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดงในช่วงการชุมนุมที่จะมาถึงนี้ โดยผู้ที่ทำบัตรสามารถใช้คล้องคอตัวเองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางไปร่วมกับชุมนุม
สำหรับพื้นที่เชียงรายได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน ว่าจะเดินทางไปร่วมทำบัตรหลายพันคนแล้ว และในช่วงเย็นยังจะมีข้าราชการหลายคนเดินทางไปทำบัตรด้วย คาดว่าเมื่อถึงวันเดินทางไปร่วมการชุมนุมจะมีคนเดินทางไปไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
นายบุญเลิศ กล่าวว่า เดิมสภาแดงล้านนาซึ่งกลุ่มเป็นสมาชิกกำหนดให้มีการจัดสรรรถยนต์เพื่อจะบรรทุกคนไปร่วมการชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ จำนวน 400 คันต่อพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน แต่จากศักยภาพของเชียงรายที่มีอยู่จึงทำให้มีการเพิ่มโควตาให้ทั้งจังหวัดเป็นกว่า 300 คันแล้ว
ที่ผ่านมาก็ได้มีประชาชนจำนวนมากพากันไปลงทะเบียนแจ้งประเภทรถ หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อและนามสกุลพร้อมที่อยู่ของผู้เป็นเจ้าของรถ ฯลฯ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการเดินทาง โดยทางกลุ่มจะเน้นให้ใช้รถบรรทุกทุกประเภทและรถกระบะเป็นหลัก จะหลีกเลี่ยงการใช้รถที่ทางรัฐบาลอาจจะนำมาใช้เป็นข้ออ้างว่าพวกเราทำผิดกฎหมาย เช่น รถอีแต๋น ฯลฯ
สำหรับกำหนดการเดินทางจะออกจากเชียงราย ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 12 มี.ค.โดยจะไปไหว้สถูปพ่อขุนเม็งรายมหาราช ที่วัดดอยงำเมือง อ.เมืองเชียงราย ก่อนจะไปไหว้อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช และเดินทางไปสมทบกับคนเสื้อแดงในอีกหลายจังหวัดที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปทาง จ.พิษณุโลก และไปบรรจบพร้อมกันทั้งสายเหนือที่ จ.อ่างทอง เพื่อจะได้เป็น 2 สายคือสายเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือที่จะไปสมทบกันที่นครราชสีมา ก่อนนยกขบวนรถนับแสนคันเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปถึงสนามหลวงในวันที่ 14 มี.ค.
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งอีกว่าก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศจ่ายเงินให้กับรถยนต์ที่จะเข้าร่วมขบวนขนคนเข้ากรุงเทพฯ อัตราคันละประมาณ 4,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจำนวนรถที่ระบุดังกล่าวถือว่าแตกต่างจากเหตุการณ์ในอดีตโดยเฉพาะเมื่อช่วงเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านมาอย่างมาก เพราะครั้งนั้นมีการประมาณการกันว่ามีผู้ที่เดินทางไปร่วมการชุมนุมเพียงแค่ประมาณ 10 คันและบางส่วนปักหลักชุมนุมอยู่ในพื้นที่เชียงราย ดังนั้น หลายฝ่ายจึงเฝ้าจับตากลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในขั้วพรรคเพื่อไทย ว่าจะเกณฑ์ไปร่วมการชุมนุมหรือไม่ เพราะหากมองจากศักยภาพของคนเสื้อแดงที่เป็นกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ มีจำนวนรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 100-200 คัน รวมทั้งยังแตกแยกกันอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้นี้การชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า หลายเวทีคนไปร่วมรับฟังน้อย ส่วนเวทีที่มีคนเดินทางไปร่วมมากๆ มักจะมีกระแสข่าวเรื่องการว่าจ้างเป็นรายหัว โดยเฉพาะในท้องที่ อ.เชียงแสน เมื่อหลายวันก่อนพบว่ามีการว่าจ้างหัวละ 500 บาทเพื่อไปร่วมรับฟังการปราศรัยบนเวที
