จันทบุรี - ผู้แทนสหกรณ์การเกษตร จากทั่วประเทศลุยเมืองจันท์ร่วมเจรจาธุรกิจการซื้อขายสินค้า เพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตภาคการเกษตรที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค
วันนี้ (2 มี.ค.53) ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดให้มีการเจรจาการค้าระหว่างผู้แทนสหกรณ์ในการแลกเปลี่ยนสินค้าภาคการเกษตร โดยมีนายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการเจรจาการค้า
ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนสหกรณ์การเกษตร 408 แห่ง จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศที่เดินทางมาร่วมเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้า การจัดโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจผลไม้ภาคสหกรณ์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความเข้มแข็งทางการเงินแก่ภาคธุรกิจผลไม้ของสหกรณ์ในภาคตะวันออก กระจายผลผลิตไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจของสหกรณ์ภาคการเกษตรในจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด ในปี 2552 มีสหกรณ์จำนวน 108 แห่ง มีสมาชิกทั้งสิ้น 105,031 คน สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี มีสมาชิกมากที่สุดจำนวน 49,237 คน มูลค่าธุรกิจ 3 ธุรกิจหลักของสหกรณ์ ได้แก่ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย มีมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 911 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67.11 รองลงมาคือธุรกิจรวบรวมผลิตผล/แปรรูป มีมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.00
สำหรับการเจรจาการค้าครั้งนี้ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์คาดว่า สหกรณ์การเกษตรที่เดินทางมาร่วมเจรจาการค้า จำนวน 408 แห่ง จะสั่งซื้อผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรรวมมากกว่า 800 ล้านบาท
วันนี้ (2 มี.ค.53) ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดให้มีการเจรจาการค้าระหว่างผู้แทนสหกรณ์ในการแลกเปลี่ยนสินค้าภาคการเกษตร โดยมีนายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการเจรจาการค้า
ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนสหกรณ์การเกษตร 408 แห่ง จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศที่เดินทางมาร่วมเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้า การจัดโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจผลไม้ภาคสหกรณ์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความเข้มแข็งทางการเงินแก่ภาคธุรกิจผลไม้ของสหกรณ์ในภาคตะวันออก กระจายผลผลิตไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจของสหกรณ์ภาคการเกษตรในจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด ในปี 2552 มีสหกรณ์จำนวน 108 แห่ง มีสมาชิกทั้งสิ้น 105,031 คน สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี มีสมาชิกมากที่สุดจำนวน 49,237 คน มูลค่าธุรกิจ 3 ธุรกิจหลักของสหกรณ์ ได้แก่ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย มีมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 911 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67.11 รองลงมาคือธุรกิจรวบรวมผลิตผล/แปรรูป มีมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.00
สำหรับการเจรจาการค้าครั้งนี้ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์คาดว่า สหกรณ์การเกษตรที่เดินทางมาร่วมเจรจาการค้า จำนวน 408 แห่ง จะสั่งซื้อผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรรวมมากกว่า 800 ล้านบาท
