xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวอนรัฐช่วยซื้อผ้าห่มค้างสต๊อกร่วม 7 แสนผืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สกลนคร-กลุ่มแม่บ้านวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสกลนคร วิงวอนรัฐบาลจัดงบประมาณช่วยซื้อผ้าห่มที่ค้างเติ่งมานานหลายเดือน ขณะนี้เดือดร้อนหนักต้องกู้หนี้ยืมสินมาทำผ้าห่ม เผยยอดค้างสต๊อก 7 แสนผืน เศรษฐกิจทรุดหนัก

ผู้สื่อข่าวรายานว่า กลุ่มแม่บ้านวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัวสิม ตำบลบหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร เป็นตัวแทนผู้ขายผ้าห่ม 16 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือว่าที่บ้านหนองบัวสิมและใกล้เคียง ประชาชนที่นี่ส่วนใหญ่จะมีอาชีพตัดเย็บผ้าห่ม ซึ่งถือเป็นอาชีพที่บริสุทธิ์และทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ในปี 2552 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จังหวัดสกลนครได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ (ภัยหนาว) จึงได้จัดทำโครงการขออนุมัติซื้อผ้าห่มจากรัฐบาล ปรากฏว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุใด รัฐบาลจึงไม่จัดสรรงบประมาณให้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน 16 จังหวัด จึงได้เข้าไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้

นางสุธาสินี สุลทน ประธานแม่บ้าน ตำบลหนองบัวสิม ประธานกลุ่มผู้ผลิตผ้าห่ม จ.สกลนคร และเป็นตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน กล่าวว่า พวกตนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งได้รวบรวมสมาชิกกลุ่มแม่บ้าน จำนวนทั้งหมด 16 จังหวัด เข้าไปยื่นหนังสือต่อสำนักนายกฯ ให้ช่วยเหลือว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องการทำผ้าห่มแล้วไม่ได้ขาย

“กลุ่มแม่บ้านมีเงินก้อนอยู่น้อยนิด ต้องกู้ยืมมาทั้งเงินนอกระบบ ทั้งเงินจาก ธ.ก.ส. เป็นหนี้เป็นสิน ค่าแรงก็ยังไม่ได้เคลียร์ให้กัน จึงอยากให้รัฐบาลออกมาช่วยเหลือด้วย เพราะเดือดร้อนจริงๆขายไม่ได้ และหากเลยช่วงนี้ไปไม่รู้จะขายให้ใคร ทุกปีที่ผ่านมาประมาณสัก 10 ปี ก็เป็นเงินที่รัฐบาลได้อุดหนุนออกมาซื้อผ้าห่ม ถือว่าการทำผ้าห่มของเราเป็นอาชีพหนึ่งหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวแล้วต้องมาทำขายให้รัฐบาล ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกปี แต่ปีนี้ งบประมาณไม่ตกลงมาก็ขอให้ดูแลเราด้วย”

นางสุธาสินี กล่าวอีกว่า ถ้าสมมติว่าขายไม่ได้ในปีนี้ ส่วนหนึ่งก็กลัวว่าจะเกิดไฟไหม้ เพราะแหล่งเก็บผ้าห่มเราเก็บอยู่ในชุมชน 4 พัน 5 พัน ผืน 7 พัน 8 พัน ผืน ของแต่ละกลุ่มไม่ใช่จำนวนน้อยๆ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือดูแล ถ้ารัฐบาลเห็นใจเราก็ขอให้มาช่วยดูแลตรงนี้ด้วย เข้าไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ก็ยังไม่เห็นมีอะไรตอบรับกลับคืนมา ยังไม่เห็นรูปธรรมว่าจะมาช่วยเหลือเราตรงนี้ ได้เลย

กำลังโหลดความคิดเห็น