นักธุรกิจรัสเซีย นอนไหลตายคาห้องพักโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน

ศูนย์ข่าวศรีราชา-เดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยไม่ได้กลับบ้าน นักธุรกิจรัสเซียพาภรรยาบินลัดฟ้ามาท่องเที่ยวที่พัทยา 10 วัน 10 คืน สุดท้ายต้องทิ้งร่างไว้ในโรงแรม สวมกางเกงในตัวเดียวนอนไหลตายบนเตียงนอน ภรรยาเผยมีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง แพ้อาหารทะเล สันนิษฐานอากาศร้อนจัดร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เดินเล่นชายหาด เล่นน้ำทะเล เข้านอนห้องแอร์เย็น

วันนี้( 6 กุมภาพันธ์ 2553 ) นาง มาเรีย อริสโตว ( MRIA ARISTOV ) อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ได้รุดให้ปากคำกับ พ.ต.ท.เจริญ วิฑิตกรกุล พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไม่ติดใจเอาความกรณี นายอเล็กซานเดอร์ อริสโตว (ALEXANDER ARILTOV ) อายุ 58 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ในสภาพสวมกางเกงในสีดำเพียงตัวเดียว ภายใน ห้องพักที่ 52345 ตึกโอเชี่ยนวิง โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ซึ่งต่อมา พ.ต.ท.เจริญ วิฑิตกรกุล ได้รุดไปตรวจสอบห้องเกิดเหตุ พบผู้ตายนอนสงบนิ่งบนเตียงนอน มีผ้าห่มคลุมตัว สวมกางเกงในสีดำเพียงตัวเดียว ปลายเตียงมาถุงบรรจุยาหลายชนิดวางอยู่ ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย และการต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่ง นางมาเรีย อริสโตว ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า สามีมีธุรกิจส่วนตัวในประเทศรัสเซีย ต้องการพากันมาพักผ่อนและท่องเที่ยว จึงได้พากันเดินทางมาเที่ยวที่เมืองพัทยา ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2553 เข้าพักที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน มีกำหนดเดินทางกลับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553
และกล่าวอีกว่า ก่อนที่สามีจะนอนหลับใหลไม่ตื่น ได้พากันลงไปเดินเล่นชายหาดทราย ว่ายน้ำทะเล ซึ่งมีแดดจัด อากาศร้อนอบอ้าว จึงได้พากันกลับเข้ามาห้องพัก สามีขอนอนพักผ่อนเพราะเหนื่อย ส่วนตัวเองเดินลงไปช๊อปปิ้งที่ตลาดด้านล่างของโรงแรม เมื่อกลับขึ้นมาเคาะประตู ห้องแต่สามีไม่ยอมมาเปิด จึงให้เจ้าหน้าที่ไขประตูเข้าไปพบว่าสามีหมดลมหายใจนอนตัวแข็งแล้ว ซึ่งน่าจะเกิดจากสาเหตุที่สามีมีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง และแพ้อาหารทะเล ต้องกินยาเป็นประจำ เมื่อเข้ามานอนในห้องแอร์เย็น ๆ ทำให้สภาพร่างกายปรับไม่ทันนอนไหลตาย
พ.ต.ท.เจริญ วิฑิตกรกุล กล่าวว่าหลังจากตรวจสอบภายในห้องพักไม่พบการถูกฆาตกรรมอำพราง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ นำศพไปชันสูตรเบื้องต้นที่ โรงพยาบาลสัตหีบ กิโล 10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ ระบบหายใจล้มเหลว จึงได้นำส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช และแจ้งให้สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ข้อตกลงระหว่างประเทศต่อไป