ตาก- ตำรวจรวบแรงงานพม่าเถื่อน 60 ราย หนีภัยแล้งทะลักเข้าไทย เผยมีทั้งโรฮิงยา – หญิงพม่า
พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ เพชรพิรุณ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.เมืองตาก จ.ตาก นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด-อาชญากรรมและความมั่นคง (ศตส.สภ.เมืองตาก) กว่า 20 นาย เข้าจับกุมแรงงานชาวพม่าที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย บริเวณสวนลำไยบ้านไร่ หมู่ที่ 12 ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ลักลอบเข้ามาซ่อนตัวในบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมไปขายแรงงานในกรุงเทพฯ
เมื่อไปถึงแรงงานต่างด้าวกระจายตัวหลบซ่อนอยู่ในสวนลำไยของชาวบ้าน จึงเข้าทำการจับกุม และตรวจค้นไม่มีหลักฐานการขออนุญาตเข้าเมืองจึงควบคุมตัว ได้ทั้งชาย-หญิงรวม 60 คน แต่มีอีกส่วนหนึ่งได้หลบหนีไปทางหุบเขาหลังหมู่บ้าน ซึ่งบางคนมีอาการป่วยด้วยไข้มาลาเรีย เจ้าหน้าที่ต้องให้ยารับประทาน ส่วนผู้ชายมีเป็นชาวโรฮิงยา ที่ลักลอบเข้ามาทางเมียวดี ผ่านเข้ามาทางอำเภอแม่สอด โดยเดินเท้าลัดเลาะเข้ามาในป่าด้วย ขณะที่คนนำทางเป็นชาวพม่าที่หลบหนีไปได้
ระหว่างการจับกุมมี 3 พี่น้องชาวพม่า เสนอเงินรางวัลให้เจ้าหน้าที่นำไปส่งถึงกรุงเทพฯจะให้ค่าจ้างรายละ 15,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธ และควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.ประสงค์ นาฟั้น พนักงานสอบสวน ทำหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก สอบสวนนางมะติ่ม (ไม่มีนามสกุล) เป็นชาวพม่า ให้การรับสารภาพว่า ทุกคนเดินที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาจากหลายเมือง มีเอเย่นต์ใหญ่อยู่ที่เมียวดี เพื่อจะจัดส่งเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเสียค่าหัวรายละ 15,000 บาท เก็บเงินเมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพฯ เมื่อก่อนเสียแค่ 13,000 บาท ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องจ่ายให้แก่ผู้นำพา ซึ่งมีหลายทอด เพื่อเข้าไปให้ถึงกรุงเทพฯ
ส่วนพม่าที่ลักลอบเข้ามาในไทยแล้วถูกฆ่าตาย เป็นข่าวโด่งดังในพม่า เป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ของแก๊งคนนำพา ซึ่งทำเป็นขบวนการในพม่า โดยมีอยู่ 2 -3 บริษัทใหญ่ที่ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน มีนายหน้าที่ฝังตัวอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เป็นคนชักจูงเข้ามา ซึ่งระยะนี้จะมีชาวพม่าเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว และมีคนว่างงานมาก ประสบปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำแห้งขอด ทำให้ชาวพม่าต้องหนีเข้ามารับจ้างในประเทศไทยเพื่อความอยู่รอด