ศรีสะเกษ - “ทหารไทย” ในฐานะเจ้าบ้าน ตรึงกำลังเข้มรอบเขาพระวิหารรับการมาเยือนของ “ฮุนเซน” นายกรัฐมนตรีเขมร เรียกทหารที่ลาพักกลับมาประจำการเต็มอัตรา ขณะบนเขาพระวิหารทางฝ่ายเขมรได้ตั้งเต็นท์ เตรียมการต้อนรับอย่างเต็มที่เพื่อแสดงละครสิทธิการครอบครองพื้นที่ทับซ้อนบนเขาพระวิหารตบตาชาวโลก
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีข่าวว่าวันที่ 6 ก.พ.นี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคณะ จะเดินทางมาตรวจพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อนบริเวณรอบเขาพระวิหาร ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าขณะนี้บรรยากาศรอบเขาพระวิหารเป็นไปด้วยความคึกคัก
ทั้งนี้ เนื่องจากทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณเขาพระวิหารได้มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยมีการระดมกำลังจากทุกหน่วยมาประจำในเขตพื้นที่ล่อแหลมที่อาจเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันทางกองกำลังสุรนารี ได้แจ้งให้ทหารไทยที่ลาพักทุกนายได้กลับเข้ามาประจำที่ฐานปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และที่บริเวณเขาพระวิหาร เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชามาตรวจพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยได้มีการตั้งด่านตรวจเข้มและไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด
โดยทหารไทยที่รักษาการณ์อยู่แจ้งว่า เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอีกทั้งเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเขาพระวิหาร ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าหากอนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเขาพระวิหารเกรงจะได้รับอันตรายจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเดินทางของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคณะในวันที่ 6 ก.พ.ดังกล่าวคาดว่าจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงยังบริเวณบ้านโกมุย ฝั่งประเทศกัมพูชา ติดเขาพระวิหาร แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ ตามถนนที่ฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างตัดผ่านเขาสูงจากบ้านโกมุย ขึ้นมายังเขาพระวิหาร เพื่อเยี่ยมเยือนเขาพระวิหาร ชายแดนกัมพูชา-ไทย ในครั้งนี้