ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ต.ท.เดชาวัต” ผบช.ภ 3 ลั่นดำเนินคดีแกนนำหลอกชาวบ้านรุกป่าชายแดนไทย-เขมรขั้นเด็ดขาด เผยจับแกนนำที่บุรีรัมย์ไปแล้ว 3 รายออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย เร่งนำสำนวนส่งอัยการให้เรื่องขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว ระบุสอบสวนพบมีการหลอกลวงเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านรายละ 300-500 บาทจริง พร้อมส่งตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์เข้าทำความเข้าใจ ปชช.แล้ว
วันนี้( 28 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับแกนนำชาวบ้านและเกษตรกรกลุ่มเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ และเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค นำมวลชนบุกเข้ายึดพื้นที่ป่าตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน จ.บุรีรัมย์ ,สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ เมื่อ 2 วันก่อนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีกับประชาชนที่หลงเข้าใจผิด แต่เน้นไปที่กลุ่มแกนนำโดยได้ทำความเข้าใจกับประชาชนไป แล้ว ก่อนที่ดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำที่ปลุกปั่นยุยงให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกในพื้นที่เขตป่าสงวน
โดยเฉพาะที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมกลุ่มแกนนำไปดำเนินคดีแล้วจำนวน 3 ราย และให้ประกันตัวออกไป พร้อมขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะรีบนำส่งพนักงานอัยการให้คดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว จนถึงขณะนี้มีการดำเนินคดีเพียงแห่งเดียวคือ ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นได้ทำความเข้าใจกับประชาชนที่เข้าไปในพื้นที่ป่า และได้ถอนตัวออกมาแล้ว โดยไม่ได้ทำการบุกรุกแผ่วถางป่าแต่อย่างใด
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า ประชาชนที่เข้าในบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินั้นจากการสอบสวนส่วนใหญ่ไม่ทราบจะมีความผิด และถูกหลอกเข้าไป หลายคนคิดว่าไปแล้วจะได้พื้นที่สำหรับทำกิน และยังพบว่ามีการเรียกรับเงินจากกลุ่มชาวบ้านรายละ 300-500 บาทจริง ฉะนั้นเมื่อมีการกระทำผิดเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ชักจูงยุยงให้ประชาชนเข้าไปกระทำผิดในพื้นที่และหากพบการกระทำผิดอีกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที
“การดำเนินการในเรื่องนี้ตำรวจจำเป็นต้องทำอย่างรวดเร็ว เพราะได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว ส่วนชาวบ้านที่ถูกหลอกให้มาร่วมนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์เข้าไปทำความเข้าใจแล้ว” พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว
