ตาก - นายอำเภอแม่สอด สั่งเข้ม ชรบ. ทั่วแม่สอดร่วม 2 พันคน ร่วมป้องกันปัญหาอาชญากรรม-ยาเสพติด—แรงงานต่างด้าว-การโจรกรรมรถข้ามแดน-การตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ หลังปัญหาชายแดนชุกชุม แถมจับต่างด้าวได้เป็นรายวัน
นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน(ชรบ.) อ.แม่สอด ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สอด โดยมีคณะกรรมการ ชรบ.ทั้ง 10 ตำบล เข้าร่วมประชุม เพื่อมอบนโยบายและขวัญกำลังใจในการทำงาน กับ ชรบ.
รวมทั้งการสั่งการให้ ชรบ.ทุกหมู่บ้านในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า เพิ่มความเข้มงวดในการทำงาน เนื่องจากขณะนี้หมู่บ้านตามแนวชายแดนได้เกิดปัญหา หลายด้านทั้งการก่ออาชญากรรม-การลักลอบค้ายาเสพติด-การขนค้าแรงงานต่างด้าว-การโจรกรรมรถข้ามแดน-การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติป่าชายแดน ฯลฯ
นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า ชรบ.ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น โดยนายอำเภอและปลัดอำเภอ งานป้องกัน จะเป็นพี่เลี้ยงให้ ซึ่งหมู่บ้านแนวชายแดน มีหลากหลายปัญหา ที่ต้องได้รับการแก้ไข เพราะที่ผ่านมามีขบวนการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆมักกระทำความผิดโดยอาศัยช่องทางและพื้นที่ชายแดน ทั้งการลักลอบขนค้ายาบ้า-แรงงานเถื่อน-การโจรกรรมรถข้ามแดน-และการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการตัดไม้ทำลายป่า ฯลฯ
ดังนั้น ต่อไปนี้ ชรบ. อำเภอแม่สอด จะต้องมีการปรับมาตรฐานการทำงานในเข้มข้นและทันสมัย เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติและท้องถิ่น ทั้งทางด้านสังคม ทั้งการบริการ-และการปราบปรามร่วมกับฝ่ายความมั่นคง เช่นบรรเทาทุกข์-บริจาคโลหิต
“จากปัญหาการโจรกรรมรถตามแนวชายแดนที่รุนแรงขึ้น ผมได้สั่งการให้ ชรบ.ทุกหมู่บ้าน ทั้ง 10 ตำบลกว่า 1,800-2,000 คน ได้จัดเวรยามและตั้งด่านตรวจสกัด ตามช่องทางชายแดนที่ล่อแหลมและเส้นทางเลียบชายแดน โดยประสานความร่วมมือกับ ทหาร-ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติการร่วมในการป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรม-ยาเสพติด—แรงงานต่างด้าว-การโจรกรรมรถข้ามแดน-การตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ พิทักษ์รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องคนไทย และอื่นๆ รวมทั้งการช่วยเหลือบริการประชาชนในหมู่บ้าน”
ขณะที่วันนี้ (21 ม.ค.) นายกิตติศักดิ์ นำกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) บ้านท่าอาจ หมู่ 3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เข้าทำการจับกุมแก็งแรงงานที่ตกงาน ประกอบด้วย นายวินทุนหน่าย อายุ 25 ปี หัวหน้าแก็งค์ -นายอ่องโก่ อายุ 21 ปี- นายเล่าอู อายุ 23 ปี และนายแหล่ลุ่ยอู อายุ 16 ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ซึ่งได้เข้าไปก่อกวน ให้เกิดความวุ่นวาย บริษัทท๊อปฟอร์มบราเซียจำกัด โดยการใช้หนังสติ๊ก ยิงลูกเหล็ก เข้าไปใส่แรงงานที่กำลังทำงานอยู่ภายในโรงงาน ทำให้มีแรงงานที่ทำงานในโรงงานถูกลูกเหล็กยิง ได้รับบาดเจ็บหลายราย
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ เพชรพิรุณ รองผู้กำกับการ ป้องกันปราบปราม (ปป.).สภ.เมืองตาก พร้อมกำลังชุด ชรบ. ตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ บ้านไร่ ม.12 ต.วังหิน อ.เมือง จ.ตาก เพื่อตรวจสิ่งผิดกฎหมาย พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซู สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน บท 6797 สุโขทัย ขับมาด้วยความเร็วสูง จึงเรียกตรวจค้น แต่ปรากฏว่า รถคันดังกล่าว เร่งความเร็วขับหลบหนีไปทาง บ้านวังหิน จึงนำกำลังติดตาม
จนกระทั่งสามารถจับกุมได้ ทราบชื่อคนขับคือนางนันทิชา เข็มคง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.4 ต.ตะคร้อ อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ท้ายกระบะกระมีหลังคามิดชิดภายในอัดแน่นไปด้วยแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เป็นชาย 8 คนหญิง 17 รวม 25 คน ซึ่งหลายคนมีอาการป่วย ด้วยไข้หวัด ร่างกายทรุดโทรม เนื่องจาก นั่งมาในรถที่แออัด อากาศถ่ายเทได้น้อย
จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานชาวพม่าเดินทางมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงาน บางคนก็อุ้มลูกน้อยไปหาพ่อบังเกิดเกล้าที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าปีแล้ว โดยต้องเสียค่าหัวให้นายหน้าเป็นผู้นำพาเข้ากรุงเทพฯ หัวละ 13,000 บาท โดยจะไปส่งให้ถึงที่ ใช้เส้นทางลัดเลาะไปตามสายลำน้ำปิง ไม่ใช้เส้นทางพหลโยธิน เพราะต้องหลบด่านตรวจ แต่ก็หนีไม่พ้นถูกจับได้ดังกล่าว จึงควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.ชวนันท์ ม่วงมิตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
