ศูนย์ข่าวขอนแก่น-โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เตรียมส่งทีมแพทย์-พยาบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวหฤโหดประเทศเฮติ ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่จะส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศเฮติ โดยคัดเลือกทีมแพทย์ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลศูนย์จำนวน 4 แห่ง
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้(20 ม.ค.) นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และ นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย รองผู้อำนวยการอาวุโสและผ.อ.ศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์และพร้อมที่จะเดินทางไปให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยที่ประเทศเฮติ
น.พ.วีระพันธ์ กล่าวว่าตามที่ นายจุลินทร์ ลักษณวิสิฏฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายในการส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยพิบัติที่ประเทศเฮติ โดยจะส่งทีมแพทย์ พยาบาล ทั้งหมด 4 ทีม ทีมละประมาณ 5- 8 คน พร้อมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น โดยเน้นทั้งการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และการควบคุมโรค
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จะคัดเลือกแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาเพื่อการปฏิบัติงานครั้งนี้ อาทิ ศัลยแพทย์ จากโรงพยาบาลศูนย์ 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลราชบุรี
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลจิตอาสา เพื่อเข้าร่วมให้การรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยที่เฮติ ประกอบด้วย แพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน , แพทย์ด้านอุบัติเหตุ, ศัลยแพทย์สาขาการบาดเจ็บและศัลยกรรมวิกฤตบำบัด, แพทย์ศัลยกรรมกระดูก , แพทย์สาขาระบาดวิทยา รวมทั้งพยาบาลวิชาชีพระดับชำนาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน , ด้านศัลยกรรมบาดเจ็บ , นักกายภาพบำบัดและพนักงานกู้ชีพ ซึ่งหากมีผู้ลงชื่อร่วมปฏิบัติการมากกว่าที่ทางกระทรวงแจ้งมา ก็จะส่งรายชื่อไปทั้งหมดเพื่อให้ทางส่วนกลางพิจารณาเพื่อเพิ่มจำนวนส่งทีมแพทย์พยาบาลไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้าน น.พ.วิทยา ชาติบัญชาชัย รองผู้อำนวยการอาวุโสและผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เปิดเผยว่าขณะที่ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน รอเพียงสัญญาณการเรียกตัวจากสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ที่จะประสานมายังประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ สถานการณ์ในโลก ที่มีเหตุภัยพิบัติ ไม่ว่าจะจากมนุษย์กระทำ หรือสาธารณภัย ถือเป็นสิ่งที่ชาวโลกต้องร่วมกันรับผิดชอบและเตรียมรับสถานการณ์ในทุกด้าน โดยเฉพาะการบริการฉุกเฉิน ทั้งบริการน้ำ ไฟฟ้า การสงเคราะห์ และจิตอาสา ซึ่งวันข้างหน้า ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าจะมีภัยพิบัติใดเกิดขึ้น ที่ใด แต่หากทุกคนไม่ประมาท และมีจิตอาสาร่วมกันก็จะช่วยให้การฝ่าฟันสถานการณ์ของชาวโลกผ่านไปได้
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้(20 ม.ค.) นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และ นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย รองผู้อำนวยการอาวุโสและผ.อ.ศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์และพร้อมที่จะเดินทางไปให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยที่ประเทศเฮติ
น.พ.วีระพันธ์ กล่าวว่าตามที่ นายจุลินทร์ ลักษณวิสิฏฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายในการส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยพิบัติที่ประเทศเฮติ โดยจะส่งทีมแพทย์ พยาบาล ทั้งหมด 4 ทีม ทีมละประมาณ 5- 8 คน พร้อมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น โดยเน้นทั้งการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และการควบคุมโรค
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จะคัดเลือกแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาเพื่อการปฏิบัติงานครั้งนี้ อาทิ ศัลยแพทย์ จากโรงพยาบาลศูนย์ 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลราชบุรี
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลจิตอาสา เพื่อเข้าร่วมให้การรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยที่เฮติ ประกอบด้วย แพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน , แพทย์ด้านอุบัติเหตุ, ศัลยแพทย์สาขาการบาดเจ็บและศัลยกรรมวิกฤตบำบัด, แพทย์ศัลยกรรมกระดูก , แพทย์สาขาระบาดวิทยา รวมทั้งพยาบาลวิชาชีพระดับชำนาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน , ด้านศัลยกรรมบาดเจ็บ , นักกายภาพบำบัดและพนักงานกู้ชีพ ซึ่งหากมีผู้ลงชื่อร่วมปฏิบัติการมากกว่าที่ทางกระทรวงแจ้งมา ก็จะส่งรายชื่อไปทั้งหมดเพื่อให้ทางส่วนกลางพิจารณาเพื่อเพิ่มจำนวนส่งทีมแพทย์พยาบาลไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้าน น.พ.วิทยา ชาติบัญชาชัย รองผู้อำนวยการอาวุโสและผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เปิดเผยว่าขณะที่ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน รอเพียงสัญญาณการเรียกตัวจากสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ที่จะประสานมายังประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ สถานการณ์ในโลก ที่มีเหตุภัยพิบัติ ไม่ว่าจะจากมนุษย์กระทำ หรือสาธารณภัย ถือเป็นสิ่งที่ชาวโลกต้องร่วมกันรับผิดชอบและเตรียมรับสถานการณ์ในทุกด้าน โดยเฉพาะการบริการฉุกเฉิน ทั้งบริการน้ำ ไฟฟ้า การสงเคราะห์ และจิตอาสา ซึ่งวันข้างหน้า ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าจะมีภัยพิบัติใดเกิดขึ้น ที่ใด แต่หากทุกคนไม่ประมาท และมีจิตอาสาร่วมกันก็จะช่วยให้การฝ่าฟันสถานการณ์ของชาวโลกผ่านไปได้
