ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ภาคธุรกิจ 10 จังหวัดเหนือรับอนาคตเศรษฐกิจปีนี้ รอผลบุญ “ไทยเข้มแข็ง” หลังปลายปีที่ผ่านมาท่องเที่ยวกระเตื้องถ้วนหน้า โดยเชียงใหม่ได้ “หลินปิง” ช่วย แถมมีนาคมนี้ได้ไลออนส์ฯจองแล้ว 20 โรงแรม ด้านพะเยาได้ R3a ทำราคาที่ดิน “จุน-เชียงคำ”พุ่งขึ้นรายวัน เมืองน่านอากาศดีได้อุทยานฯดึงคนเข้าตรึม
การประชุมคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.)หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้แทนหอการค้าที่เข้าร่วมประชุม เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน ฯลฯ ได้ใช้โอกาสนี้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ช่วงที่ผ่านมาและปี 53 เพื่อเตรียมตัวรองรับด้วย
นายเฉลิมชาติ นครังกุล รองประธานหอฯเชียงใหม่ บอกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบทางการเมือง วิกฤตเสื้อหลากสี แต่ไตรมาสสุดท้าย ปลายปี 52 เชียงใหม่ โชคดีได้ “หลินปิง” ช่วยไว้ ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่คึกคักถ้วนหน้า ธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งร้านอาหาร ของที่ระลึกขายได้มากขึ้น แม้ว่ายอดการจับจ่ายใช้สอยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจะลดลงก็ตาม
โดยในปีนี้ (2553) เชียงใหม่ ได้ทำ MOU กับ สส.ปท.ชูให้เชียงใหม่ เป็น 1 ใน 4 เมืองแห่งการประชุมร่วมกับกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต เชื่อว่าจะทำให้เชียงใหม่ มีงานประชุมสัมมนาทั้งระดับประเทศ และนานาชาติมากขึ้น เช่นช่วงมีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้ ก็จะมีการประชุมสโมสรไลออนส์ ที่มีกำลังซื้อสูง ล่าสุดได้มีการจองโรงแรมเข้ามาแล้ว 20 แห่ง รองรับผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 4-5 พันคน คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจของเชียงใหม่คึกคักขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของปี 53 น่าจะอยู่ที่งบไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ที่มีข่าวว่าน่าจะเบิกจ่ายกันได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 53 นี้ แม้ว่าโครงการส่วนใหญ่จะลงไปที่การก่อสร้างถนนหนทาง-สาธารณสุข-การศึกษา ก็ตาม แต่ก็จะช่วยกระจายเม็ดเงินได้ระดับหนึ่ง
ส่วนที่ลำปางผู้แทนหอการค้าลำปาง บอกว่า ด้วยผลของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ทั้งโรงไฟฟ้า , ปูนซีเมนต์ , เซรามิก ทำให้เศรษฐกิจลำปางปี 52 ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้ว่าท่องเที่ยวจะตกลงไปประมาณ 5%ก็ตาม แต่ดูจากยอดขายรถในงานมอเตอร์โชว์ปลายปีที่ผ่านมา ก็ยังสามารถทำยอดขายได้มากถึง 600 กว่าคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์โชว์ปี 51 ที่ขายได้ประมาณ 400 กว่าคันเท่านั้น
ด้านจังหวัดแพร่นางสุสวาท มงคลเจริญวงศ์ ประธานหอฯบอกว่า ปี 52 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจโดยรวมของแพร่ดีขึ้น ทั้งค้าปลีก-ค้าส่ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนปีนี้ เชื่อว่า การท่องเที่ยวแพร่จะขยายตัวไม่น้อยกว่า 3% หลังจากที่องค์กรต่าง ๆ ในจังหวัดร่วมกันจัดงาน “รวมพลคนปีขาล” และเทศกาลไหว้องค์พระธรตุประจำ 12 ราศี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้ที่เกิดปีขาลเข้ามาตลอดทั้งปี และผู้ประกอบการในพื้นที่ก็จะร่วมลดราคาสินค้าลงมาประมาณ 10-30%กระตุ้นอีกทางหนึ่ง
ขณะที่เมืองน่าน ตัวแทนหอการค้าฯน่าน ระบุว่า ท่องเที่ยวของเมืองน่าน คึกคักมาก อุทยานแห่งชาติทุกแห่งเต็มหมดในช่วงปลายปี 52 ที่ผ่านมา ที่พักไม่พอรองรับนักท่องเที่ยว และขณะนี้จังหวัดน่านกำลังจะบูมโครงการไหว้พระ 9 วัด โดยมีรถรางท่องเที่ยวรอบเมืองทุกวันให้บริการ
สำหรับพะเยา ผู้แทนหอการค้าพะเยา ได้สะท้อนปรากฏการณ์ต่อเนื่องจากเส้นทางคุน-มั่น กงลู่ (คุนหมิง-กรุงเทพฯ) โดยเฉพาะช่วงหลังจากเส้นทาง R3a (ส่วนหนึ่งของคุนหมิง-กรุงเทพฯ) เปิดใช้มาได้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ว่า ทำให้ราคาที่ดินแถบ อ.จุน –เชียงคำ ที่คาดหมายกันว่าจะมีการพัฒนาเส้นทางต่อเนื่องจาก R3a ไปถึงกรุงเทพฯพาดผ่าน ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30% โดยเฉพาะในขณะนี้เรียกได้ว่าราคาที่ดินปรับขึ้นเป็นรายวันกันทีเดียว ซึ่งหอการค้ามีแนวคิดที่จะเสนอให้ทางกระทรวงคมนาคมจัดทำป้ายบอกทาง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน รองรับกระแสคนจีนเข้าไทยตามแนวเส้นทางนี้ด้วย
ส่วนลำพูน ที่ล่าสุดสวนลำไยในพื้นที่ผ่านมาตรฐาน GMP กันหมด 100% แล้วนั้น ประเมินกันว่า ในปี 53 นี้ต้องดูแนวโน้มการส่งลำไยเข้าเวียดนาม เพื่อส่งต่อเข้าจีนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ปีกลายที่ผ่านมาทางจังหวัดฯ-หอการค้า ได้เดินเครื่องเจรจากับผู้ค้าลำไยในเวียดนามมาแล้วระดับหนึ่ง
นายทวีศักดิ์ ปิงวงศานุรักษ์ ประธานหอการค้าอุตรดิตถ์ บอกถึงแผนงานที่จังหวัดอุตรดิตถ์จะดำเนินการในปี 53 นี้ว่า จะเร่งผลักดันให้มีการยกระดับด่านถาวรภูดู่เชื่อม สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้มีความพร้อม 100%แล้ว นอกจากนี้ในปีนี้ จังหวัดฯยังได้งบราว 40 กว่าล้านบาท ที่จะนำมาใช้สนับสนุนแผนงานนี้ด้วย นอกจากนี้ทางหอการค้าฯจะพยายามผลักดันให้มีการพัฒนาเส้นทางประตูสู่อีสาน (อุตรดิตถ์ – ภูเรือ เลย) เป็นถนน 4 เลนตลอดทั้งสาย ซึ่งสามารถร่นระยะทางจากภาคเหนือ – อีสาน ลงได้กว่า 100 กม.ด้วย
การประชุมคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.)หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้แทนหอการค้าที่เข้าร่วมประชุม เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน ฯลฯ ได้ใช้โอกาสนี้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ช่วงที่ผ่านมาและปี 53 เพื่อเตรียมตัวรองรับด้วย
นายเฉลิมชาติ นครังกุล รองประธานหอฯเชียงใหม่ บอกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบทางการเมือง วิกฤตเสื้อหลากสี แต่ไตรมาสสุดท้าย ปลายปี 52 เชียงใหม่ โชคดีได้ “หลินปิง” ช่วยไว้ ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่คึกคักถ้วนหน้า ธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งร้านอาหาร ของที่ระลึกขายได้มากขึ้น แม้ว่ายอดการจับจ่ายใช้สอยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจะลดลงก็ตาม
โดยในปีนี้ (2553) เชียงใหม่ ได้ทำ MOU กับ สส.ปท.ชูให้เชียงใหม่ เป็น 1 ใน 4 เมืองแห่งการประชุมร่วมกับกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต เชื่อว่าจะทำให้เชียงใหม่ มีงานประชุมสัมมนาทั้งระดับประเทศ และนานาชาติมากขึ้น เช่นช่วงมีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้ ก็จะมีการประชุมสโมสรไลออนส์ ที่มีกำลังซื้อสูง ล่าสุดได้มีการจองโรงแรมเข้ามาแล้ว 20 แห่ง รองรับผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 4-5 พันคน คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจของเชียงใหม่คึกคักขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของปี 53 น่าจะอยู่ที่งบไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ที่มีข่าวว่าน่าจะเบิกจ่ายกันได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 53 นี้ แม้ว่าโครงการส่วนใหญ่จะลงไปที่การก่อสร้างถนนหนทาง-สาธารณสุข-การศึกษา ก็ตาม แต่ก็จะช่วยกระจายเม็ดเงินได้ระดับหนึ่ง
ส่วนที่ลำปางผู้แทนหอการค้าลำปาง บอกว่า ด้วยผลของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ทั้งโรงไฟฟ้า , ปูนซีเมนต์ , เซรามิก ทำให้เศรษฐกิจลำปางปี 52 ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้ว่าท่องเที่ยวจะตกลงไปประมาณ 5%ก็ตาม แต่ดูจากยอดขายรถในงานมอเตอร์โชว์ปลายปีที่ผ่านมา ก็ยังสามารถทำยอดขายได้มากถึง 600 กว่าคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์โชว์ปี 51 ที่ขายได้ประมาณ 400 กว่าคันเท่านั้น
ด้านจังหวัดแพร่นางสุสวาท มงคลเจริญวงศ์ ประธานหอฯบอกว่า ปี 52 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจโดยรวมของแพร่ดีขึ้น ทั้งค้าปลีก-ค้าส่ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนปีนี้ เชื่อว่า การท่องเที่ยวแพร่จะขยายตัวไม่น้อยกว่า 3% หลังจากที่องค์กรต่าง ๆ ในจังหวัดร่วมกันจัดงาน “รวมพลคนปีขาล” และเทศกาลไหว้องค์พระธรตุประจำ 12 ราศี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้ที่เกิดปีขาลเข้ามาตลอดทั้งปี และผู้ประกอบการในพื้นที่ก็จะร่วมลดราคาสินค้าลงมาประมาณ 10-30%กระตุ้นอีกทางหนึ่ง
ขณะที่เมืองน่าน ตัวแทนหอการค้าฯน่าน ระบุว่า ท่องเที่ยวของเมืองน่าน คึกคักมาก อุทยานแห่งชาติทุกแห่งเต็มหมดในช่วงปลายปี 52 ที่ผ่านมา ที่พักไม่พอรองรับนักท่องเที่ยว และขณะนี้จังหวัดน่านกำลังจะบูมโครงการไหว้พระ 9 วัด โดยมีรถรางท่องเที่ยวรอบเมืองทุกวันให้บริการ
สำหรับพะเยา ผู้แทนหอการค้าพะเยา ได้สะท้อนปรากฏการณ์ต่อเนื่องจากเส้นทางคุน-มั่น กงลู่ (คุนหมิง-กรุงเทพฯ) โดยเฉพาะช่วงหลังจากเส้นทาง R3a (ส่วนหนึ่งของคุนหมิง-กรุงเทพฯ) เปิดใช้มาได้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ว่า ทำให้ราคาที่ดินแถบ อ.จุน –เชียงคำ ที่คาดหมายกันว่าจะมีการพัฒนาเส้นทางต่อเนื่องจาก R3a ไปถึงกรุงเทพฯพาดผ่าน ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30% โดยเฉพาะในขณะนี้เรียกได้ว่าราคาที่ดินปรับขึ้นเป็นรายวันกันทีเดียว ซึ่งหอการค้ามีแนวคิดที่จะเสนอให้ทางกระทรวงคมนาคมจัดทำป้ายบอกทาง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน รองรับกระแสคนจีนเข้าไทยตามแนวเส้นทางนี้ด้วย
ส่วนลำพูน ที่ล่าสุดสวนลำไยในพื้นที่ผ่านมาตรฐาน GMP กันหมด 100% แล้วนั้น ประเมินกันว่า ในปี 53 นี้ต้องดูแนวโน้มการส่งลำไยเข้าเวียดนาม เพื่อส่งต่อเข้าจีนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ปีกลายที่ผ่านมาทางจังหวัดฯ-หอการค้า ได้เดินเครื่องเจรจากับผู้ค้าลำไยในเวียดนามมาแล้วระดับหนึ่ง
นายทวีศักดิ์ ปิงวงศานุรักษ์ ประธานหอการค้าอุตรดิตถ์ บอกถึงแผนงานที่จังหวัดอุตรดิตถ์จะดำเนินการในปี 53 นี้ว่า จะเร่งผลักดันให้มีการยกระดับด่านถาวรภูดู่เชื่อม สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้มีความพร้อม 100%แล้ว นอกจากนี้ในปีนี้ จังหวัดฯยังได้งบราว 40 กว่าล้านบาท ที่จะนำมาใช้สนับสนุนแผนงานนี้ด้วย นอกจากนี้ทางหอการค้าฯจะพยายามผลักดันให้มีการพัฒนาเส้นทางประตูสู่อีสาน (อุตรดิตถ์ – ภูเรือ เลย) เป็นถนน 4 เลนตลอดทั้งสาย ซึ่งสามารถร่นระยะทางจากภาคเหนือ – อีสาน ลงได้กว่า 100 กม.ด้วย