เลย - ธ.ก.ส.เลย สนองรัฐโอนหนี้นอกระบบรายแรกของประเทศ โดยลูกหนี้วัย 73 ปีกู้หนี้นอกระบบรวมแล้วกว่า 1.7 หมื่นบาท เผย จ.เลยมีลูกหนี้ลงทะเบียนแล้วกว่า 800 ราย มูลหนี้รวม 35 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (19 ม.ค.) ที่หอประชุมอำเภอเมืองเลย อ.เมือง จ.เลย นายธนวัฒน์ สวรรยาธิปัต นายอำเภอเมืองเลย และนางศิริเพ็ญ โกษารักษ์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดเลย ร่วมกันเป็นประธานพิธีเปิดทำสัญญาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ ตามโครงการหนี้นอกระบบผ่าน ธ.ก.ส.จังหวัดเลย ซึ่งมีมาลงทะเบียนแล้วกว่า 800 ราย ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดเป็นมูลหนี้รวม 35 ล้านบาท
โดยในวันนี้มีทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้เดินทางมาทำสัญญาพร้อมผู้ค้ำประกัน เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหนี้เข้าสู่ระบบ สถาบันการเงิน ธกส.กว่า 100 ราย
รายแรกในจังหวัดเลยเป็นการเปลี่ยนแปลงหนี้ระหว่างนางประภาพร ศรีบุญเรือง อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/22 บ้านนาเขิน ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เจ้าหนี้กับนายองอาจ เยาว์ยงค์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 บ้านกกทอง หมู่ 3 ต.กกทอง อ.เมือง จ.เลย ซึ่งมีมูลหนี้ 17,000 บาท โดยเป็นการยืมหลายครั้ง คราวละ 3,000-5,000 บาท ซึ่งลูกหนี้ต้องส่งดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือนตามสัญญา ทำการกู้ยืมตั้งแต่ ปี พ.ศ.2546 เป็นต้นมา
หลังทำสัญญาเปลี่ยนแปลงหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ ธกส.เลยจึงได้พาทั้งสองเดินไปยังสำนักงาน ธกส. เลย ถนนนกแก้ว เพื่อดำนินการเบิกเงินให้แก่ลูกหนี้ออกมา ใช้คืนให้แก่เจ้าหนี้เต็มตามจำนวนกู้ 17,000 บาท นางประภาพรเจ้าหนี้หลังจากได้รับเงินแล้ว ได้คืนเงินให้แก่นายองอาจจำนวน 1,000 บาท เพื่อเป็นการให้กำลังใจ สร้างความตื้นตันใจให้แก่นายองอาจเป็นอย่างยิ่ง
พร้อมทั้งก้มกราบนางประภาพร ซึ่งหลังจากนี้ไป นายองอาจต้องส่งเงินให้แก่ ธ.ก.ส.เลย ปีละ 2,125 บาท เป็นเวลา 8 ปี
นางประภาพร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ซึ่งตนคิดว่าคงจะไม่ได้คืนแล้ว เพราะนายองอาจ ไม่ได้ส่งเงินต้นมาหลายเดือน ดอกส่งบ้างไม่ส่งบ้าง แต่ก็ผ่อนผันให้มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเป็นคนดี ร่างกายไม่แข็งแรง รู้สึกสบายใจ และเห็นว่าสามารถช่วยเหลือผู้มีปัญหาทางการเงินได้ทั้งสองฝ่าย และฝากไปถึงเจ้าหนี้และลูกหนี้รายอื่น ให้เข้ามาร่วมโครงการไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่
นางศิริเพ็ญ โกษารักษ์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดเลย กล่าวว่า คณะกรรมการเจรจาประนอมหนี้ได้วางแนวทาง กรณีมูลหนี้ไม่ถึง 50,000 บาท/ราย ทาง ธ.ก.ส. สามารถเจรจาประนอมหนี้เจ้าหนี้ได้โดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการประนอมหนี้ระดับจังหวัด ซึ่งจะทำให้เกิดการช่วยเหลือรวดเร็วขึ้น ซึ่งตามกรอบเวลาทางรัฐบาลให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 21ม.ค.53 แต่ทางธกส.เลย สามารถดำเนินการได้ก่อนเวลา ซึ่งเป็นผลดีแก่ลูกหนี้
โดยธนาคารจะชดใช้หนี้ให้ก่อนและลูกหนี้จ่ายผ่อนชำระคืนธนาคารพร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 12% ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรก หลังจากนั้นคิดตามอัตราประมาณ 6.75-9.75% ผ่อนชำระได้นานสุด 12 ปี ซึ่งอาจมีบางรายที่ลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ต่อได้ คือทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่มาติดต่อ
