พิจิตร-ชลประทานพิจิตรเริ่มผันน้ำจากแม่น้ำน่าน และแม่น้ำปิงเข้าสู่แม่น้ำยม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งพืชผลการเกษตรเสียหาย และแก้ปัญหาชาวนาเปิดศึกแย่งน้ำทำนา ในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำยม
นายประเวศน์ ศิริศิลป์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร กล่าวถึง กรณีที่ระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านหลายอำเภอของจังหวัดพิจิตร ระยะทาง 124 กิโลเมตรประกอบไปด้วยอำเภอสามง่าม วชิรบารมี โพธิ์ประทับช้าง โพทะเล และอำเภอบึงนาราง ซึ่งระดับน้ำยมก่อนหน้านี้ได้แห้งขอดลงก่อนกำหนดกว่าทุกปีที่ผ่านมา จนชาวบ้านสามารถเดินข้ามไปมาหากันได้เป็นการส่อเค้าวิกฤตภัยแล้งที่จะหนักในปีนี้
ชลประทานจังหวัดพิจิตรได้เร่งแก้ปัญหาให้เกษตรกร ที่ทำนาปรังทดแทนจากนาข้าวที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติศัตรูพืชเพลี้ยกระโดดระบาดที่ผ่านมาในเขตลุ่มแม่น้ำยม โดยได้ผันน้ำจากแม่น้ำน่าน บริเวณคลองในหลวง ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อลงสู่แม่น้ำยมตลอดฤดูกาลทำนาปรัง
ขณะเดียวกันได้ผันน้ำจากแม่น้ำปิงในโครงการชลประทานวังยาง สำนักชลประทานที่ 4 จำนวน 118 ล้านลูกบาศก์เมตรตลอดฤดูกาล ซึ่งจากการผันน้ำทั้งสองจุดดังกล่าวทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่แห้งขอดกลับมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้ง 23 จุดของแม่น้ำยมได้สูบน้ำ เพื่อให้ชาวนาในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม ได้นำน้ำไปทำการเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวได้อย่างเพียงพอในฤดูแล้งนี้ ชาวนาต่างเริ่มไถว่านทำนาปรังกันจำนวนมาก
โครงการผันนำดังกล่าว เป็นแผนป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง อีกทั้งเพื่อเป็นการแก้ปัญหาชาวนาเปิดศึกแย่งน้ำทำนาในพื้นที่เหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ชลประทานจังหวัดพิจิตรได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 28 เครื่องรวมถึงรถบรรทุกน้ำไว้ช่วยเหลือประชาชนอีก 3 คัน อีกด้วย