สุโขทัย - สยองชาวบ้านสุโขทัยกินหลู้ดิบตายทันที 3 ศพ สสจ.ตื่นส่งทีมลงพื้นที่ตรวจพบติดเชื้อ “สเตรปซูอิส”
วันนี้ (11 ม.ค.) นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า จากกรณีมีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 และหมู่ 9 ต.กกแรต อ.กงไกรลาศ เสียชีวิตรวม 3 ราย หลังจากที่ไปซื้อหลู้ (ลาบเลือด) ดิบ จากตลาดไนท์มารับประทาน ล่าสุดผลตรวจยืนยัน ผู้ตายทั้งหมดได้รับเชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส จากการกินเนื้อหมู และเลือดหมูดิบ
นายแพทย์ปิยะกล่าวว่า เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะอยู่ในคอ จมูก และเลือดหมู มีอันตรายมาก เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายคน จะมีระยะฟักตัว 1-3 วัน จึงเริ่มป่วย โดยระยะแรกจะมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง ปวดตามข้อ ต่อมาเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจสูญเสียการได้ยิน ในรายที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถรักษาได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ ส่วนวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การงดกินเนื้อหมู เลือดหมูดิบอย่างเด็ดขาด และต้องปรุงให้สุก 100%
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุ สสจ.สุโขทัย ได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจในพื้นที่ และสอบประวัติผู้ตายทันทีหลังได้รับแจ้ง ขณะเดียวกันก็มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกแห่ง เร่งออกประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้าน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดโรคมาสู่คน เนื่องจากขณะนี้พบมีผู้ป่วยแล้ว รวม 11 ราย และเสียชีวิต 3 ราย
ทั้งนี้ หลังจากการตายหมู่แพร่สะพัด ส่งผลให้ชาวบ้านต่างไม่กล้าที่จะกินลาบ-หลู้ดิบ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดไนท์ และร้านอาหารในพื้นที่ใกล้เคียง ก็ไม่กล้าที่จะทำขายให้แก่ลูกค้าเช่นกัน เนื่องจากกลัวจะได้รับเชื้อโรคดังกล่าว