พะเยา - ชาวบ้านกว่า 200 ประท้วง อบจ.พะเยาไม่ยอมซ่อมถนนให้ โวยภาครัฐและท้องถิ่นโยนกันไปมา เป็นเหตุมีคนเจ็บและตายทุกปี เผยเป็นเส้นทางสู่โครงการพระราชดำริและแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมพะเยา-เชียงราย อบจ.เต้น พร้อมรับเร่งแก้ปัญหาหลัง นายก ฯ กลับจาก ตปท.ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้มีประชาชนจากพื้นที่หมู่ 7 ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา ประมาณ 250 คน เดินทางมารวมตัวกัน ณ จุดตรวจป้อมยามบ้านแสล่ง หมู่ 5 ต.เชียงแรง เมื่อ 6 ม.ค.53 เพื่อประท้วงทางราชการและองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พะเยา ที่รับผิดชอบถนนทางลาดยางเชื่อมระหว่างบ้านแสล่ง-บ้านทุ่งติ้ว เลขที่ อบจ.พย 3086 ระยะทาง 7.050 กม.
ทั้งนี้ เนื่องจากถนนดังกล่าวเกิดการชำรุดเป็นหลุม บ่อตลอดเส้นทาง เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุผู้ที่สัญจรไปมาต้องได้รับบาดเจ็บและล้มตายทุกปีติดต่อกันมานานกว่า 5 ปี แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดมาซ่อมบำรุงและทำผิวจราจรใหม่ ดังนั้น ประชาชนที่มาประท้วงจึงร่วมกันนำต้นไม้จำนวนมากมาปลูกในหลุมกลางถนน พร้อมเขียนป้ายประจานสภาพความเสียหายของถนนด้วย
นายฐาน เขจร อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.เชียงแรง กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวแต่เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ต่อมาปี 2547-48 ได้ถ่ายโอนให้แก่ อบจ.พะเยา ซึ่งเมื่อเส้นทางชำรุดประชาชนได้รับความเดือดร้อน ร้องเรียนมายังฝ่ายผู้นำจึงได้แจ้งไปยังหน่วยงานราชการ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เพื่อเป็นผู้ประสานงานขอความช่วยเหลือแก่ประชาชนต่อไป
ความสำคัญของถนนนี้ คือ เป็นเส้นทางเข้าสู่พื้นที่โครงการพระราชดำริ ฯ ศูนย์การเรียนรู้อ่างเก็บน้ำห้วยไฟ ต.ภูซาง อ.ภูซาง เป็นเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างสองจังหวัดคือ พะเยา และ ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย นักท่องเที่ยวจะใช้สัญจรตลอดปีและได้ประสบอุบัติเหตุเสมอ
อดีต ผช.ผญบ. กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักโดยตรงคือ ประชาชนในพื้นที่ทั้งสัญจรปกติและขนส่งผลผลิตการเกษตร ประชาชนทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนนต้องหลบหลุมบ่อพลัดเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เกษตรกรที่เก็บน้ำยางสด เมื่อเจอหลุมรถล้มน้ำยางหกเหลือไม่มากบางรายไม่เหลือเลย ดังนั้นประชาชนและผู้ใช้เส้นทางนี้จึงเดือดร้อนอย่างมาก
“จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาให้ นักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติที่มาหาเสียงก็ยืนยันว่าจะดำเนินการก่อสร้างถนนให้ใหม่ ผลัดมาหลายปียังไม่ได้ พวกเราที่ใช้ถนนเส้นนี้ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่รับผิดชอบได้ช่วยบรรเทาทุกข์ให้พวกเราด้วย เพราะไม่อยากให้ต้องมีคนเจ็บและตายอีกต่อไป” นายฐาน กล่าว
ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้ร่วมกันร่างหนังสือร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมและลงรายมือชื่อ เสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผ่านทางฝ่ายปกครอง อ.ภูซาง โดยมีนาย กิตติ ชัยดรุณ ปลัดอาวุโส เป็นผู้รับเรื่องและดำเนินการให้ ประชาชนจึงยอมสลายตัวในเวลาประมาณ 13.10 น.
ทั้งนี้เส้นทางดังกล่าวเดิมได้มีการบรรจุเข้าแผนในข้อบัญญัติของ อบจ.แล้ว แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท จึงได้ประสานไปยัง ส.ส.เพื่อขอผลักดันงบประมาณจากรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการสนับสนุน โครงการดังกล่าวจึงถูกผลักมาให้ อบจ.อีกครั้ง ซึ่งต้องนำกลับเข้าไปบรรจุในแผนใหม่ในปีงบประมาณถัดไป