อำนาจเจริญ - เด็กหญิงวัย 13 ปี ต้องวิ่งไป-กลับโรงเรียน เพื่อมาดูแลแม่ที่เป็นเหยื่อผ่าต้อกระจก ร.พ.ศรีนครินทร์จ.ขอนแก่น เมื่อสองเดือนก่อน ทำให้ตาบอดสนิททั้งสองข้าง ปัจจุบันอยู่กันสองแม่ลูก ส่วนพ่อตายแล้ว วอนผู้ใจบุญหาหมอเก่งช่วยแม่ด้วย เพื่อจะได้ไปโรงเรียนเหมือนเพื่อนๆ ด้านครูบอกเป็นเด็กเรียนดี แต่ระยะหลังขาดเรียนบ่อย ตามดูที่บ้าน จึงทราบเรื่อง และหาทางช่วยโดยสอนเสริมหลังเลิกเรียน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอำนาจเจริญรายงานว่า จากกรณีผู้ป่วยตาต้อกระจกเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แต่เกิดการติดเชื้อในระหว่างการรักษา ทำให้ตาบอดสนิท โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อของเชื้อโรคแทรกซ้อนจำนวนหลายราย ซึ่งนางนงคราญ สวาสุด อายุ 48 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 3 บ้านโสกโดน ต.โนนหนามแท่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนรับการผ่าตัดตาสามารถมองเห็นทั้ง 2 ข้าง
แต่ตาข้างซ้ายที่เป็นต้อกระจกมีอาการพล่ามัว จึงต้องการรับการผ่าตัด เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน จึงเข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาล จ.อุบลราชธานี
ต่อมาแพทย์ได้ส่งตัวไปให้จักษุแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ผ่าตัดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2552 หลังการผ่าตัดมีอาการปวดแสบตาอย่างทรมาน จนทนไม่ไหวสลบคาเตียง แพทย์ต้องนำตัวเข้าไปรักษาในห้องฉุกเฉิน จนอาการดีขึ้น จึงให้ออกจากโรงพยาบาล แต่อาการปวดแสบดวงตาไม่ดีขึ้น
กระทั่งปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เริ่มมองไม่เห็นทั้งสองข้าง จนกระทั่งบอดสนิทในที่สุด
“ชีวิตวันนี้ จึงเหมือนตายทั้งเป็น และลูกสึกสงสารลูกสาวคือ ด.ญ.ประภาพร อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต้องขาดเรียนบางวัน เพื่อมาคอยดูอาการ เพราะอาศัยอยู่กันสองแม่ลูก ส่วนสามีเสียชีวิตไปแล้ว ลูกอีก 2 คน ก็ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด” นางนงคราญกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ด้าน ด.ญ.ประภาพร ลูกกตัญญูผู้เป็นดวงตาให้แม่ เล่าเสริมว่า ปัจจุบันต้องคอยดูแลแม่ โดยทำกับข้าวให้กิน พาเข้าห้องอาบน้ำ และจูงมือแม่พาเดินไปตามจุดต่างๆรอบบ้าน เพราะแม่ยังไม่ชินกับสภาพการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจึงได้ไปโรงเรียน แต่วันใดที่อาการดวงตาแม่กำเริบ ทำให้เจ็บปวดทรมานมาก ก็ต้องหยุดเรียนมาเฝ้าดูแลคอยจัดยาให้แม่กิน และบางครั้งต้องหยุดเรียนติดต่อกันหลายวัน เพราะต้องพาแม่ไปพบแพทย์ตามที่นัดตรวจที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นด้วย
ด.ญ.ประภาพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้แต่ภาวนาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้แม่กลับมามองเห็นได้อีก เพื่อแม่จะมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป สามารถทำงานได้ และตนได้ไปเรียนหนังสือต่อ พร้อมวอนให้ผู้ใจบุญช่วยหาแพทย์เก่งๆมารักษาแม่ให้ด้วย ด.ญ.ประภาพรกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยกับชะตากรรมของผู้ให้กำเนิด
นายเสรี ศรีพุทธรินทร์ ครูแนะแนวโรงเรียนบ้านโสกโดนคำไหลคำเตย ซึ่ง ด.ญ.ประภาพรเรียนอยู่เล่าว่า ด.ญ.ประภาพรเป็นเด็กเรียนดี แต่ระยะหลังเริ่มขาดเรียนบ่อย จึงตามมาสอบถามที่บ้าน ทำให้ทราบว่าที่ต้องขาดเรียน เพราะมาดูแลแม่ที่ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง โดยชีวิตประจำวันของ ดญ.ประภาพร ถ้ามาโรงเรียนตอนพักเที่ยงก็ต้องรีบวิ่งกลับไปบ้าน เพื่อไปหาข้าวหายาให้แม่กินแล้ววิ่งกลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย
ทำให้ ด.ญ.ประภาพรเรียนไม่ทันเพื่อน โรงเรียนหาทางแก้ โดยให้ครูนำบทเรียนมาสอนเพิ่มเติมให้ที่บ้าน เพื่อจะได้เรียนทันเพื่อนและสามารถสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ในปีการศึกษา 2553 นี้ นายเสรีกล่าว
ด้านความช่วยเหลือนอกจากยาที่แพทย์จัดมาให้กิน ยังไม่มีหน่วยงานด้านสงเคราะห์เข้ามาให้การช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้แต่อย่างใด สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงกตัญญูรายนี้ สามารถบริจาคเงินเพื่อการยังชีพได้ที่ ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาอำนาจเจริญ บัญชีออมทรัพย์หมายเลข 077-2-02982-4 ชื่อบัญชี นางนงคราญ สวาสุด