ลำปาง – “วีระ สมความคิด” นำทีมชาวบ้านบ้านแจ้งความเอาผิด “นายก อบจ.ลำปาง – ผู้ว่าฯ” ฐานใช้อำนาจมิชอบ – ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังพบเงื่อนงำโครงการสร้างโรงกำจัดขยะ 600 ล้าน ไร้หลักฐานอ้างอิง แถมใช้ข้อมูลเก่าตั้งเรื่อง ชี้อาจมีการเบิกจ่ายค่างวดก่อนงานเสร็จ
ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ (6 ม.ค.53)นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน 4 ตำบล คือ จากตำบลพิชัย ตำบลบ้านเอื้อม ตำบลบ้านเป้า ตำบลบ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ประมาณ 300 คน ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง
ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นำข้อมูลของโครงการก่อสร้างบ่อกำจัดขยะแบบครบวงจร ซึ่งมี องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง เป็นเจ้าของโครงการ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ออกมาเปิดเผย เนื่องจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเห็นว่าน่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน และไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างบอกำจัดขยะในพื้นที่ของตนเอง โดยมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำแผงเหล็กมาปิดทางขึ้นศาลากลาง และคอยดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณดังกล่าวจำนวนหนึ่ง
กลุ่มชาวบ้านได้ให้เวลาแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง 30 นาที เพื่อนำข้อมูลออกมาชี้แจงให้กับชาวบ้านได้รับทราบ แต่สุดท้ายเมื่อเวลา 11.00 น.เศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ก็ไม่ยอมลงมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน แกนนำจึงได้ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงและร้องขอให้ผู้ว่าฯ ลงมาพบ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
แกนนำจึงได้ประกาศสลายตัวและนำมวลชนเดินทางไปยัง สภ.เมืองลำปาง เข้าแจงความกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายวีระ กล่าวภายหลังแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมี พ.ต.อ.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผู้กำกับ สภ.เมืองลำปาง คอยดูแล และพ.ต.ท.สันติ จันทร์ศักดิ์ พนักงานสอบสวน เป็นผู้รับเรื่อง ในเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง เนื่องจากเชื่อว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ โดยทุจริตในการก่อสร้างโครงการบ่อกำจัดแบบครบวงจร ที่ตำบลต้นธงชัย และขอให้ดำเนินคดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในข้อหาที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย แทนที่เรื่องเก่าจะจบก็ไม่จบกลับไปช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จึงขอให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งให้ทาง ปปช.ดำเนินการต่อไป
ขณะเดียวกันก็จะให้ทางตัวแทนชาวบ้านฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินในโครงการดังกล่าวให้หยุด เพราะโครงการดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากลเหมือนกับโครงการที่มาบตาพุดที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งที่นั่นก็ไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์เช่นกัน และศาลก็สั่งให้หยุดโครงการไปแล้วหลายโครงการ ซึ่งตนเชื่อว่าโครงการนี้ก็เหมือนกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมีหลายประเด็นที่เห็นว่า น่าจะไม่โปร่งใสคือ อบจ.ลำปาง อ้างว่าเป็นความต้องการของ อบต.บ่อแฮ้ว และอื่นๆ อีกหลายแห่ง ว่าต้องการบ่อขยะ แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆเลย ซึ่งทำให้เชื่อว่า เป็นความต้องการของ อบจ.เอง และนำโครงการไปลงในพื้นที่นั้นๆโดยเจ้าของพื้นที่ไม่ได้ต้องการ เพราะหากชาวบ้านต้องการก็คงไม่มีการร้องเรียน หรือถ้าชาวบ้านต้องการ ชาวบ้านต้องร้องผ่าน อบต. และ อบต.จึงส่งต่อให้ อบจ. แต่นี้ชาวบ้านไม่รู้และไม่ได้ต้องการ
ที่สำคัญคือ โครงการดังกล่าวเป็นของ อบจ.แทนที่ อบจ.จะต้องเป็นผู้ทำประชาพิจารณ์ แต่กลับไปใช้เอกสารเก่าที่ เทศบาลตำบล.บ่อแฮ้ว ทำไว้นำมาสวมแทน ชัดเจนว่าไม่โปร่งใส และการใช้ที่ดินก็น่าจะไม่ถูกต้อง ประกอบกับการทำข้อมูล เช่น ข้อมูลของจำนวนขยะที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ ก็ไม่เป็นความจริง นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลว่ามีการเบิกจ่ายเงินไปก่อนทั้งๆที่งานยังไม่เสร็จตามงวดงานด้วย
