ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ททท.พร้อมหนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวรุกตลาดดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทย-เพื่อนบ้านเข้าท่องเที่ยวภาคอีสานเพิ่มมากขึ้น ประเดิมจัดโรดโชว์เชิญผู้ซื้อจากเวียดนาม-สิงคโปร์-มาเลเซียพบผู้ขายร่วม300 คนที่ขอนแก่นปลายเดือนม.ค.นี้ ย้ำยังชูจุดเด่นของภาคเป็นแหล่งเรียนรู้อารยธรรม ขายการท่องเที่ยวสไตล์ Slow Travel ใน 6 เส้นทางทัวร์
นายนพรัตน์ กอกหวาน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดขอนแก่น(ททท.) เปิดเผยว่าตลอดปี 2553 ททท.จะมุ่งเน้นแผนการขายแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานเป็นหลัก หลังจากที่ปี 2551 ได้เปิดตัวรณรงค์ให้ในห้วง 3 ปี คือ ปี 2551-2553 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสานและถัดมาในปี 2552 ได้โหมจัดกิจกรรมกระตุ้นบรรยากาศเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหันมาท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้กันมากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลมีนักท่องเที่ยว นักทัศนาจรชาวไทยเลือกเดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวค่อนข้างมาก อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าในปีนี้แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานจะเป็นที่รู้จักในกันมากขึ้น
ทั้งนี้ททท.ได้จัดวางตำแหน่งทางการตลาดของการท่องเที่ยวภาคอีสาน เป็นแหล่งเรียนรู้อู่อารยธรรม แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานโดยมากจะเป็นโบราณสถาน ปราสาทหินศิลปะขอม และแหล่งรวมสถานที่ปฏิบัติธรรมของเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาชื่อดังหลายท่าน ตามแผนการขายจะชูจุดเด่นของภาคด้วยการนำเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวแบบมีเรื่องราวในลักษณะ Slow Travel ใน 6 เส้นทาง
ประกอบด้วย เส้นทางตามรอยไดโนเสาร์ เส้นทางตามรอยอารยธรรมขอม เส้นทางอารยธรรมโบราณ เส้นทางเยือนถิ่นคาทอลิก 2 Unseen เส้นทางตามรอยพระอาจารย์มั่น และเส้นทางเสน่ห์มนตราริมโขง โดยเฉพาะเส้นทางตามรอยพระอาจารย์มั่นนั้นนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถศึกษาหลักธรรมคำสอนของท่าน เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติภาวนาในชีวิตประจำวันได้ด้วย เส้นทางทัวร์ดังกล่าว เริ่มจากบ้านเกิด สถานที่บรรพชาเป็นพระภิกษุ การเดินทางสั่งสอนศิษยานุศิษย์ การสร้างบุญบารมีธรรม วัดที่จำพรรษา สถานที่นั่งวิปัสสนากรรมฐาน และสถานที่ที่ท่านมรณภาพ
รวมไปถึงสถานที่ที่ที่เกี่ยวข้องพระเกจิอาจารย์ ตลอดจนลูกศิษย์ของท่าน เช่น วัดศรีทอง วัดป่าสุทธาวาส วัดป่าภูริทัตตถิราวาส วัดถ้ำจำปา ฯลฯ
“กลยุทธ์การสร้างกระแสให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเริ่มเห็นผล ดูได้จากช่วงปีที่ผ่านมาคนไทยเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น แม้แต่คนท้อง คนแก่หรือคนพิการก็นิยมท่องเที่ยวพักผ่อนในภูมิภาคต่างๆมากกว่าเดิม และภาคอีสานก็เหมาะที่จะมาท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้” นายนพรัตน์กล่าวและว่า
ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวภาคอีสานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นผลจากการที่ททท.จัดคณะบริษัทนำเที่ยว โรงแรมในขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางไปพบปะกับผู้ประกอบการนำเที่ยวที่เมืองดานังเมื่อเดือนตุลาคม 2552 คาดว่าในปี 2553 นี้จะเห็นคณะทัวร์จากเวียดนามมาขอนแก่นชัดเจนขึ้น ททท.พร้อมสนับสนุนเต็มที่โดยททท.สำนักงานโฮจิมินห์จะบริการอาหารเช้าให้กับนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามก่อนออกเดินทางผ่านลาวมายังภาคอีสาน
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่นก็เป็นอีกจุดดึงดูดหนึ่ง ที่ทำให้ชาวเวียดนามอยากมาขอนแก่นเพื่อช้อปปิ้ง อัพเดทเทรนแฟชั่น นอกเหนือจากการมาตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม
นายนพรัตน์ระบุว่า ในช่วงปี 2553 นี้ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในขอนแก่นหรือภาคอีสานต้องรุกสร้างตลาดให้มากขึ้น เพื่อหวังผลในอีก 2-3 ปีข้างหน้าปริมาณนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ อย่างน้อยก็นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน ททท.เองก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะการจัดโรดโชว์ให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้าระหว่างกัน
โรดโชว์แรกที่จะประเดิมในปี 2553 คือการจัดตลาดกลางนัดพบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น ในระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.นี้ เชิญผู้ประกอบการที่เป็นผู้ซื้อทั้งจากกรุงเทพฯ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์มาพบกับผู้ขายหรือผู้ประกอบการของขอนแก่นและอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน ผู้ซื้อที่ททท.เชิญไว้จะออกเดินทางจากกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.เพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยวหลักๆตามเส้นทางต่างๆในภาคก่อนที่จะมาพบกับผู้ขายทั่วภาคอีสานร่วม 300 รายในวันที่ 29-30 ม.ค. การจัดโรดโชว์ครั้งนี้น่าจะช่วยให้สินค้าท่องเที่ยว ที่พักโรงแรมเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น
นอกจากนี้วันที่ 18-21 ก.พ. ก็จะมีการจัดงานส่งเสริมการขาย Amazing Esan Trade Fair ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นอีกงานหนึ่งที่จะทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องทางด้านการท่องเที่ยวของภาคอีสานเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่เฉพาะผู้ซื้อหรือนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น
