xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยว“โคราช – ชัยภูมิ”โตทะลุ 1.1 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มหัศจรรย์“มอหินขาว” อุทยานแห่งชาติภูแลนคา อ.เมือง จ.ชัยภูมิ แหล่งท่องเที่ยวใหม่มาแรง
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - การท่องเที่ยวเมืองใหญ่ประตูสู่อีสาน“โคราช-ชัยภูมิ” ปี’52 โตเกินคาดทะลุ 1.12 หมื่นล้าน รับอานิสงส์ปชช.หนีการเมืองวุ่น-หวัด 2009 หันเที่ยวธรรมชาติ-โบราณสถาน-วัฒนธรรม ระบุ“เขาใหญ่” ยังเป็นจุดขายหลัก ตามด้วย“วังน้ำเขียว” ส่วนชัยภูมิ “ทุ่งกระเจียวบาน” แชมป์ยอดนิยม “มอหินขาว”น้องใหม่มาแรง ชี้ “ปีเสือ’53”แจ่ม ตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวเพิ่ม 8-10% รายได้โต 5% เผยชูสินค้าใหม่ “มอหินขาว-พิพิธภัณฑ์พ่อคูณ – กังหันลม-หลวงปู่โตใหญ่สุดในโลก ” พร้อมแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพรางวัลการันตี ดึงดูดนักท่องเที่ยวและงัดกลยุทธ์รองรับทุกกลุ่มตลาด

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานนครราชสีมา เปิดเผยถึงภาวะการท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ 2 จังหวัดคือนครราชสีมา และ ชัยภูมิ ในปี 2552 ที่ผ่านมาว่า จ.นครราชสีมา มีจำนวนผู้มาเยี่ยมเยียนทั้งนักท่องเที่ยวพักค้างคืนและนักทัศนาจรรวมประมาณ 4,407,0600 คน เติบโตขึ้น 10.6% ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 4,242,522 คน เติบโต 8% และชาวต่างประเทศ 72,616 คน เติบโต 2.2% ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 10,026 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8.3% แบ่งเป็นรายได้จากคนไทย 9,600 ล้านบาท เติบโต 5% ชาวต่างชาติ 368 ล้านบาท เติบโต 3%

ทั้งนี้ถือเป็นตัวเลขอัตราการเติบโตสูงเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาคอีสานได้รับอานิสงส์จากการที่นักท่องเที่ยวคนไทยต้องการหลีกหนีความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศและเลี่ยงการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีปัญหาแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หันมาท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งประวัติศาสตร์อารยธรรมโบราณสถาน และวัฒนธรรม ในภาคอีสานแทน

โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง กลายเป็นทางเลือกสำคัญเพราะระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สภาพอากาศเย็นสบาย ธรรมชาติสวยงาม ประกอบกับปัญหาภาวะโลกร้อนทำให้เกิดกระแสคนกรุงพากันมาซื้อบ้านหลังที่ 2 เพื่อพักผ่อนที่เขาใหญ่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ อ.วังน้ำเขียว ,กังหันลม อ.สีคิ้ว แหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมโบราณสถาน ที่ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง ,อุทยานปราสาทหินพิมาย อ.พิมาย , แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท อ.โนนสูง และ แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมแห่งใหม่มาแรง คือ อุทยานลานบุญหลวงปู่โตใหญ่ที่สุดในโลก อ.สีคิ้ว และ พิพิธภัณฑ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด เป็นต้น

“อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังถือว่าเติบโตน้อยและหลายตลาดติดลบ เช่น อเมริกา ,ญี่ปุ่น, เยอรมัน และอังกฤษ มีเพียงตลาดเดียวที่เติบโตขึ้น 8% คือ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเรื่องประวัติศาสตร์อารยธรรมและโบราณสถาน” นายอรรถพล กล่าว

ชัยภูมิโกย 1.2 พันล้านโตพุ่ง 12%

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนการท่องเที่ยวของจ.ชัยภูมิ ในปี 2552 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 8.3% รวมจำนวน 1,445,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 1,440,000 คน และ นักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 3,900 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาแต่งงานกับหญิงไทย รวมมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 1,225 ล้านบาท อัตราการเติบโต 12.5% แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 1,220,000 บาท และ ชาวต่างประเทศ 5 ล้านบาท

จ.ชัยภูมิเริ่มเป็นที่รับรู้ของนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยเฉพาะเทศกาลดอกกระเจียวบาน และปีนี้ ททท. นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอุทยาน “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” โดยได้นักร้องซูเปอร์สตาร์ค้างฟ้าเมืองไทย “เบิร์ด” ธงชัย แมคอินไตย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ คือ มหัศจรรย์“มอหินขาว” อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก ทำให้ปี 2552 จ.ชัยภูมิมีรายได้จากการท่องเที่ยวค่อนข้างดี เติบโตถึง 12.5 %

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการส่งเสริมตลาดในปี 2553 นั้น ยังคงใช้นโยบายในการเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8-10 % ส่วนรายได้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5% โดยมีกลยุทธ์ การดำเนินงาน คือ รักษาฐานตลาดเดิม กลุ่มนักท่องเที่ยวเดิมที่เคยเดินทางมาแล้วให้กลับมาอีกครั้ง และขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเฉพาะซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง เช่น กลุ่มสนใจกีฬากอล์ฟ ซึ่ง มีสนามกอล์ฟใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาก , กลุ่มสนใจเข้ามาท่องเที่ยวพื้นที่รอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้วกระจายการเดินทางเชื่อมโยงไปยังพื้นที่รอง เช่น อ.วังน้ำเขียว , อ.เมือง และ อ.พิมาย เป็นต้น

นอกจากนี้เรายังคงรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่เป็นแหล่งอารยธรรมขอมโบราณที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ และเชื่อมไปสู่จุดขายทางด้านธรรมชาติ รวมทั้งเทศกาลงานประเพณีต่างๆ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้น

ชูจุดขายสินค้าใหม่-แหล่งเที่ยวคุณภาพ

พร้อมทั้งชูจุดขายแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด ,อุทยานลานบุญหลวงปู่โต ,ไฟฟ้ากังหันลมลำตะคอง อ.สีคิ้ว , มอหินขาว จ.ชัยภูมิ และ แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดีเด่นหลายแห่ง เช่น สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช อ.วังน้ำเขียว , ไร่องุ่นพีบีวัลเลย์เขาใหญ่ไวน์เนอรี่ , ไร่องุ่นกราน-มอนเตย์ , ฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง และ น้ำตกตาดโตน จ.ชัยภูมิ เป็นต้น

นอกจากนั้นตลาดนักท่องเที่ยวที่เริ่มเติบโตและน่าสนใจ คือ ตลาดเยาวชนที่หันมาสนใจกิจกรรมการผจญภัย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย อย่างเยาวชนสิงคโปร์ ซึ่งเรามีแผนเชิงรุกเดินทางไปโรดโชว์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วย และการส่งเสริมการตลาดผ่านการจัดกิจกรรมมิวสิกมาร์เกตติ้ง หรือ มหกรรมดนตรีขนาดใหญ่ ซึ่งผลการจัดที่ อ.ปากช่อง ทำให้เกิดการท่องเที่ยวกระจายไปยังแหล่งต่างๆ ได้มาก รวมถึงทำการตลาดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ออนไลน์ต่าง ๆ ควบคู่กันไป

“ จากปัจจัยทั้งหลายดังกล่าว หากไม่มีตัวแปรที่รุนแรงเหนือความคาดหมาย เช่น การเมืองในประเทศหรือโรคภัยไข้เจ็บ ในปี 2553 นี้การท่องเที่ยวทั้ง 2 จังหวัดประตูสู่อีสานนี้น่าจะดีและมีโอกาสเติบโตสูงมาก ซึ่งททท.ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวไว้รองรับครอบคลุมทุกกลุ่มตลาดอย่างเต็มที่ ทั้ง กลุ่มเยาวชนที่ชื่นชอบการผจญภัย , กลุ่มคนทำงาน ในแหล่งท่องเที่ยวได้รับรางวัลคุณภาพ เขตท่องเที่ยวไร่องุ่นและความเป็นธรรมชาติ , กลุ่มผู้สูงอายุ กับเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ เส้นทางท่องเที่ยวประวัติศาสตร์แหล่งอารยธรรมโบราณสถาน สำหรับกลุ่มตลาดต่างประเทศ ” นายอรรถพล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น