หนองคายเข้มปีใหม่ อส.เมาหนักไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์

หนองคาย-ตำรวจหนองคาย ตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ช่วงปีใหม่ อส.เมืองหนองคาย เมาหนัก แต่ยังกร่างยียวนแถมไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ สุดท้ายตำรวจล็อคตัวดำเนินคดีเมาแล้วขับทันที ขณะที่นักท่องเที่ยวต่อแถวยาวเหยียดยื่นเอกสาร ข้ามไปเที่ยวส่งท้ายปีที่ประเทศลาว

คืนวันที่ 30 ธ.ค.52 พ.ต.ท.ณัฐฎพนธ์ พยอมใหม่ สารวัตรจราจร สภ.เมืองหนองคาย ได้นำเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมทั้งวัดระดับแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ บริเวณสี่แยกเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองหนองคาย ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2553

นายวสันต์ จูมแพง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ 9 บ้านดอนสวรรค์ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกตรวจ พบว่านายวสันต์ อยู่ในสภาพมึนเมา ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ และยังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในทุกกรณี โดยอ้างว่า เป็น อส.ประจำอำเภอเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ต้องควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์และดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ เมาแล้วขับ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้รถเมื่อเป่าแอลกอฮอล์พบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มากกว่าที่กฎหมายกำหนดอีกหลายราย บางรายยังพกขวดเหล้าติดตัวมาขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วย ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

สำหรับรายงานอุบัติเหตุทางถนน ในวันที่ 30 ธ.ค. มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3 ครั้ง จากการขับขี่รถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ขณะนี้จังหวัดหนองคายจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุยังคงที่จำนวน 1 รายตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ในวันที่ 31 ธ.ค. 52ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก เข้าคิวเป็นแถวยาวเหยียด ยื่นหนังสือทำพิธีการผ่านแดนเพื่อเดินทางออกไปยังประเทศลาวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งรถโดยสารที่ให้บริการนำข้ามสะพานมิตรภาพนั้นมีไม่เพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ทำให้ต้องเสียเวลารอรถอยู่นานพอสมควร

ประกอบกับเมื่อข้ามไปถึงฝั่งสะพานประเทศลาวแล้วก็ต้องรอทำพิธีการผ่านเข้าประเทศลาวอีก ยิ่งทำให้ผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดที่บริเวณด่านสะพานของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันชาวลาวก็เดินทางมาเข้าท่องเที่ยวที่จังหวัดหนองคายวันละหลายพันคนเช่นกัน

นายเผดิมเดช มั่งคั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวทุกคนที่ต้องการซื้อของจากประเทศเพื่อนบ้านกลับมาไม่ให้ซื้อสินค้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ สุรา ไวน์ บุหรี่ ซึ่งตามสิทธิแล้วนักท่องเที่ยวสามารถนำสุรา หรือไวน์ เข้ามาได้คนละ 1 ขวด ส่วนบุหรี่คนละ 1 คอตตอน

รวมถึงสินค้าเลียนแบบและละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ต้องพึงระมัดระวังด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เข้มงวดตรวจสอบบุคคลและกระเป๋าสัมพาระนำเข้าเครื่องเอ๊กซเรย์ตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติด แต่ไม่ให้กระทบกับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย ก็อำนวยความสะดวกให้อย่างดี