บุรีรัมย์ – ตำรวจบุรีรัมย์ สั่ง 34 สถานีทั้งจังหวัดฯ ตั้งจุดตรวจบริการในพื้นที่ล่อแหลมเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมและเกิดอุบัติเหตุ ตามถนนสายหลักรวมกว่า 40 จุด พร้อมคุมเข้มลักลอบขนยาเสพติด-อาวุธสงคราม- แรงงานต่างด้าว และสิ่งผิดกม. รวมทั้งเปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ป้องกันคนร้ายก่อเหตุงัดแงะ
วันนี้ ( 22 ธ.ค.) พ.ต.อ.ชัยเดช ปานรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทาง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งให้ตำรวจทั้ง 34 สถานีในพื้นที่รับผิดชอบ เตรียมรับมือลดอุบัติเหตุและการก่ออาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 โดยให้มีการตั้งจุดตรวจบริการตามถนนสายหลัก สภ.ละ 1 จุด และให้เพิ่มจุดตรวจในพื้นที่ที่เคยเกิดอุบัติเหตุ และการก่ออาชญากรรมบ่อยครั้ง
เช่น ถนนสาย อ.นางรอง อ.หนองกี่ อ.ประโคนชัย อ.โนนสุวรรณ อ.กระสัง อ. สตึก และ อ.พุทไธสง รวมกว่า 40 จุด
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา พร้อมทั้งให้สกัดกั้นตรวจค้นรถต้องสงสัยทุกคัน ที่คาดว่าจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนย้ายยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว และอาวุธสงคราม ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัด หรือเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่มีผู้คนสัญจรไปมาคับคั่ง เพื่อป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเข้มงวดด้วย
พ.ต.อ.ชัยเดช กล่าวต่อว่า ให้มีการจัดชุดสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยานยนต์ และตำรวจนอกเครื่องแบบ ออกตรวจตราสอดส่องและติดตามพฤติการณ์บุคคลต้องสงสัย กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ รวมไปถึงผู้ที่มีค้างเก่า ที่จะฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ในอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ยังได้เปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพื่อป้องกันกลุ่มโจรผู้ร้าย และแก๊งมิจฉาชีพ ที่จะฉวยโอกาสก่อเหตุงัดแงะเข้าไปขโมยทรัพย์สินของมีค่า ตามบ้านเรือนของประชาชน ขณะที่เจ้าของบ้านออกไปทำภารกิจ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ยังต่างจังหวัดหลายวันติดต่อกันไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน
พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุก สภ.ได้จัดกำลังสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยานยนต์ ออกตรวจตราตามบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมไปถึงสถานที่ราชการที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุถูกลักขโมยอย่างเข้มงวด
“ยังได้กำชับให้ทุก สภ. จับตาพฤติกรรมคนร้ายแก๊งต่างๆ ที่มักอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อ เพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ด้วยวิธีการต่างกันใน 10 รูปแบบ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดดังกล่าวด้วย”พ.ต.อ.ชัยเดช กล่าว
วันนี้ ( 22 ธ.ค.) พ.ต.อ.ชัยเดช ปานรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทาง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งให้ตำรวจทั้ง 34 สถานีในพื้นที่รับผิดชอบ เตรียมรับมือลดอุบัติเหตุและการก่ออาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 โดยให้มีการตั้งจุดตรวจบริการตามถนนสายหลัก สภ.ละ 1 จุด และให้เพิ่มจุดตรวจในพื้นที่ที่เคยเกิดอุบัติเหตุ และการก่ออาชญากรรมบ่อยครั้ง
เช่น ถนนสาย อ.นางรอง อ.หนองกี่ อ.ประโคนชัย อ.โนนสุวรรณ อ.กระสัง อ. สตึก และ อ.พุทไธสง รวมกว่า 40 จุด
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา พร้อมทั้งให้สกัดกั้นตรวจค้นรถต้องสงสัยทุกคัน ที่คาดว่าจะมีการฉวยโอกาสลักลอบขนย้ายยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว และอาวุธสงคราม ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัด หรือเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่มีผู้คนสัญจรไปมาคับคั่ง เพื่อป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเข้มงวดด้วย
พ.ต.อ.ชัยเดช กล่าวต่อว่า ให้มีการจัดชุดสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยานยนต์ และตำรวจนอกเครื่องแบบ ออกตรวจตราสอดส่องและติดตามพฤติการณ์บุคคลต้องสงสัย กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ รวมไปถึงผู้ที่มีค้างเก่า ที่จะฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ในอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ยังได้เปิดโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพื่อป้องกันกลุ่มโจรผู้ร้าย และแก๊งมิจฉาชีพ ที่จะฉวยโอกาสก่อเหตุงัดแงะเข้าไปขโมยทรัพย์สินของมีค่า ตามบ้านเรือนของประชาชน ขณะที่เจ้าของบ้านออกไปทำภารกิจ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ยังต่างจังหวัดหลายวันติดต่อกันไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน
พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุก สภ.ได้จัดกำลังสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยานยนต์ ออกตรวจตราตามบ้านเรือนที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมไปถึงสถานที่ราชการที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุถูกลักขโมยอย่างเข้มงวด
“ยังได้กำชับให้ทุก สภ. จับตาพฤติกรรมคนร้ายแก๊งต่างๆ ที่มักอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อ เพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ด้วยวิธีการต่างกันใน 10 รูปแบบ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดดังกล่าวด้วย”พ.ต.อ.ชัยเดช กล่าว