xs
xsm
sm
md
lg

ศิษยานุศิษย์หลวงปู่เหรียญนับหมื่นแน่นวัดร่วมพระราชทานเพลิงศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนองคาย- ศิษย์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เกจิดังเมืองหนองคาย นับหมื่นคน แน่นวัดร่วมพระราชทานเพลิงศพ ส่งดวงวิญญาณหลวงปู่เป็นวาระสุดท้าย หลังมรณภาพมานานกว่า 4 ปี

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพพระสุธรรมคณาจารย์ หรือ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดอรัญญบรรพต เกจิชื่อดังสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2548 สิริอายุรวม 93 ปี 73 พรรษา

โดย นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เหรียญ มาตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ให้มีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะการรองรับคลื่นศิษยานุศิษย์หลวงปู่เหรียญที่หลั่งไหลมาร่วมส่งดวงวิญญาณหลวงปู่เหรียญเป็นครั้งสุดท้าย มีผู้มีจิตศรัทธาจัดตั้งโรงทานกว่า 2,000 โรง สถานที่กางเต้นท์บำเพ็ญกุศล ปฏิบัติธรรม

ศิษยานุศิษย์หลวงปู่เหรียญได้เดินทางมายังวัดอรัญญบรรพต จับจองพื้นที่กันตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตลอดทั้งวันก่อนถึงเวลาพระราชทานเพลิงศพ บรรดาประชาชนและศิษยานุศิษย์จากทั่วทุกสารทิศของประเทศไทย แม้กระทั่งชาวลาวที่ศรัทธาและเคารพนับถือหลวงปู่เหรียญมายาวนาน ก็ได้เดินทางมาร่วมพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้มากกว่าหมื่นคน จนแน่นไปทั้งบริเวณวัด โดยแต่ละคนจะได้รับภาพถ่ายหลวงปู่เหรียญ ประกอบด้วย ภาพเกศาที่แปรเป็นพระธาตุ และโลหิตที่แปรเป็นพระธาตุ คู่กับหนังสือคำสอนหลวงปู่เหรียญที่ทางคณะกรรมการวัดอรัญญบรรพตจัดพิมพ์พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและ เทศนาธรรมหลวงปู่เหรียญที่เคยแสดงธรรมเทศนาไว้ในอดีต รวบรวมเป็นเล่มไว้แจกจ่ายผู้มาร่วมงาน

ทั้งนี้ ในวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศิษย์หลวงปู่เหรียญได้เชิญหีบศพจากพระสุธรรมเจดีย์ไปยังเมรุ แห่เวียนเมรุ 3 รอบ แล้วเชิญขึ้นตั้งบนจิตกาธาน และพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ สวดพระพุทธมนต์ ทักษิณานุปทาน สวดมาติกาบังสุกุล สวดพระอภิธรรม จนถึงเย็นวันที่ 13 ธ.ค.52 ภายหลังพระราชทานเพลิงศพแล้วในวันที่ 15 ธ.ค. เวลา 07.00 น. จะเป็นพิธีสามหาบเก็บอัฐิ และอัญเชิญอัฐิหลวงปู่เหรียญไว้ภายในพระสุธรรมเจดีย์ เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ได้กราบไหว้เคารพสักการะ

สำหรับอัตชีวประวัติพระสุธรรมคณาจารย์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เดิมชื่อ เหรียญ ใจขาน เกิดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2455 ที่บ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นบุตรนายผา นางพิมพา ใจขาน มีพี่น้อง รวม 7 คน คน เมื่อหลวงปู่มีอายุได้ 10 ขวบ มารดาท่านก็ได้เสียชีวิตลง พออายุท่านได้ 20 ปี ก็มีความปรารถนาจะออกบวช


โดยพิจารณาเห็นว่าชีวิตนี้เกิดมาแล้ว ทำงานไม่รู้จักจบจักสิ้น ตายแล้วก็ไม่ได้อะไรติดตัวไป โลกนี้มีทั้งสุขและทุกข์ แต่ความสุขที่ว่านี้เป็นความสุขชั่วคราวที่ไม่ยั่งยืน มันเป็นเพียงเหยื่อล่อ ให้คนเราติดอยู่ในทุกข์เท่านั้น คนเราเกิดมาแล้วที่สุดก็ต้องตายด้วยกันทุกคน ร่างกายนี้เมื่อจิตละไปแล้ว ก็ต้องแตกสลายออกจากกัน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจึงขออนุญาตบิดาและมารดาเพื่อขอลาบวช โดยได้บวช ณ อุโบสถวัดบ้านหงษ์ทอง มีท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจาจารย์

เมื่อปี 2476 หลวงปู่ได้พบกับท่านอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต และได้พาท่านไปบวชเป็นธรรมยุติที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ในพรรษาแรก ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสาระวารี จ.อุดรธานี เมื่อออกพรรษาแล้วท่านจึงได้ธุดงค์ขึ้นไปพักวิเวก ที่ถ้ำผาปู่ และถ้ำผาบิ้ง จังหวัดเลย ปี 2477 จึงได้กลับลงมาจำพรรษาที่วัดอรัญวาสี จ.หนองคาย
 
ในพรรษานี้ ท่านเล่าว่าท่านได้ตั้งใจบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ซึ่งท่านมีความตั้งใจดังนี้ คือ 1.จะไม่นอนกลางวัน 2.เมื่อค่ำลงจะทำความเพียร จนถึง 4 ทุ่มจึงจำวัด พอถึงตี 2 จึงลุกขึ้นทำความเพียรต่อ จนถึงสว่าง พอออกพรรษา ต่อมาหลวงปู่พร้อมเพื่อนภิกษุรูปหนึ่ง เดินทางตามมาท่านพระอาจารย์มั่น ที่ จ.เชียงราย และได้พบกับพระอาจารย์มั่น ครั้นเมื่อเดินทางไปถึง จ.เชียงใหม่ ไปที่วัดเจดีย์หลวง ได้พบกับหลวงตาเกต ซึ่งได้พาท่านไปพบพระอาจารย์มั่น ที่ป่าละเมาะใกล้ๆโรงเรียนแม่โจ้ จ.เชียงใหม่


ในพรรษาที่ 6 หลวงปู่เหรียญ ได้รับการแต่งตั้งจากท่านพระอาจารย์มั่นให้จำพรรษาที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมกับพระอาจารย์เนียม และพระอาจารย์อ่อนศรี ครั้นออกพรรษาแล้วจึงได้ออกธุดงค์ ไปบนเขาดอยพระเจ้า พร้อมกับท่านพระอาจารย์มั่น และพระรูปอื่น รวม 6 รูป หลวงปู่ได้เลื่อมใสพระอาจารย์มั่นมาก จึงตัดสินใจธุดงค์อยู่ทางภาคเหนือต่อ จำพรรษาที่เชียงใหม่รวมทั้งสิ้น 10 ปี และ อ.เถิน จ.ลำปาง อีก 3 ปี

ในครั้งนั้นมีพระอาจารย์ที่ร่วมธุดงค์ด้วยทางภาคเหนือ ได้แก่ ท่านพระอาจารย์มั่น ท่านพระอาจารย์กู่ หลวงปู่สิม หลวงปู่ชอบ และหลวงปู่ขาว เป็นต้น จากนั้นหลวงปู่ได้ธุดงค์ไปอีกหลายแห่งทั้งภาคเหนือ-ใต้ รวมทั้งประเทศพม่า ลาว

หลวงปู่เหรียญได้อาพาธด้วยโรคไต และต่อมลูกหมากโต เส้นเลือดในสมองและหัวใจตีบ ความดันโลหิตและโรคชรา ต้องเข้ารักษาอาการที่ รพ.เอกอุดร จ.อุดรธานี และโรงพยาบาลวิชัยยุทธอย่างต่อเนื่องมานานถึง 2 ปี ก่อนเข้าเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์ และย้ายไปรักษาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.48 จนกระทั่งเวลา 11.50 น.วันที่ 5 มิ.ย.48 หลวงปู่แหวนได้ละสังขารด้วยอาการที่สงบ รวมสิริอายุ ได้ 93 ปี 73 พรรษา

นับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สร้างความอาลัยให้กับศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบันสังขารหลวงปู่เหรียญอยู่บนศาลาธรรมเจดีย์ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

กำลังโหลดความคิดเห็น