กาญจนบุรี - นายกท่องเที่ยวกาญจน์ยื่นหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อสร้างกวนอิม เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (10 ธ.ค.) พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยกรณีคัดค้านการก่อสร้างตำหนักเจ้าแม่กวนอิมริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่า ตนในฐานะผู้คัดค้านการก่อสร้างดังกล่าวได้ให้เวลาแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ปัญหานี้มานานพอสมควร แต่ยังไม่มีผลการดำเนินการในทางปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
ดังนั้น ตนจึงทำหนังสือร้องขอให้ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าพนักงานของรัฐต่อกรณีนี้ โดยได้ยื่นหนังสือต่อผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว
โดยเหตุที่ยื่นหนังสือดังกล่าว มาจากตามที่จังหวัดกาญจนบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาหาข้อยุติการก่อสร้างอาคารถาวรและองค์เจ้าแม่กวนอิมของมูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม ซึ่งคณะกรรมการชุดนั้นได้สรุปประเด็นสำคัญในการสอบสวนว่า เจ้าพนักงานของรัฐอนุมัติให้มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรมดำเนินการโดยมิชอบและยึดที่ดินสาธารณะเพื่อประโยชน์แห่งตนมีการสร้างอาคารขนาดใหญ่บดบังโบราณสถานและภูมิทัศน์สะพานข้ามแม่นำแคว
ผลปรากฏว่า มูลนิธิฯ 1.ไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน 2.เจ้าพนักงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงปละปล่อยประละเลยให้มูลมูลนิกระทำผิดอย่างต่อเนื่องและ 3.ส่งผลให้สังคมเกิดความแตกแยกและประชาชนขาดความเชื่อถือภาครัฐและการอยู่ร่วมกันของประชาสังคม
พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของรัฐนำที่ดินของรัฐไปเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลที่ใช้เอกสารอันมิชอบ อ้างว่าเป็นที่ดินของตน ดำเนินการก่อสร้างมูลนิธิ เป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย ผิดจริยธรรม ผิดหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีดำเนินการตามหน้าที่รับผิดชอบเพื่อเป็นตัวอย่างของคณะกรรมการธรรมาภิบาลของประเทศตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
นายกสมคาธุรกิจท่องเที่ยวกล่าวอีกว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและคณะกลุ่มองค์กรที่ร่วมคัดค้าน ใคร่ขอให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและรวดเร็วเพื่อความโปร่งใส ถูกต้อง อันจะเป็นการรักษาประโยชน์ส่วนรวม และเป็นแนวทางปกป้องพื้นที่สะพานข้ามแม่นำแคว ซึ่งเป็นโบราณสถานและมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศและของโลก ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี และแนวทางของการรักษาสมบัติส่วนรวมของประเทศชาติต่อไป
มีรายงานข่าวว่า หนังสือร้องเรียนดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรียังได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีเป็นรายบุคคลเพื่อให้๕ระกรรมการเร่งดำเนินการพิจารณากรณีนี้อย่างเร่งด่วนอีกด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (10 ธ.ค.) พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยกรณีคัดค้านการก่อสร้างตำหนักเจ้าแม่กวนอิมริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่า ตนในฐานะผู้คัดค้านการก่อสร้างดังกล่าวได้ให้เวลาแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ปัญหานี้มานานพอสมควร แต่ยังไม่มีผลการดำเนินการในทางปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
ดังนั้น ตนจึงทำหนังสือร้องขอให้ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าพนักงานของรัฐต่อกรณีนี้ โดยได้ยื่นหนังสือต่อผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว
โดยเหตุที่ยื่นหนังสือดังกล่าว มาจากตามที่จังหวัดกาญจนบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาหาข้อยุติการก่อสร้างอาคารถาวรและองค์เจ้าแม่กวนอิมของมูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม ซึ่งคณะกรรมการชุดนั้นได้สรุปประเด็นสำคัญในการสอบสวนว่า เจ้าพนักงานของรัฐอนุมัติให้มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรมดำเนินการโดยมิชอบและยึดที่ดินสาธารณะเพื่อประโยชน์แห่งตนมีการสร้างอาคารขนาดใหญ่บดบังโบราณสถานและภูมิทัศน์สะพานข้ามแม่นำแคว
ผลปรากฏว่า มูลนิธิฯ 1.ไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน 2.เจ้าพนักงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ราชการทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงปละปล่อยประละเลยให้มูลมูลนิกระทำผิดอย่างต่อเนื่องและ 3.ส่งผลให้สังคมเกิดความแตกแยกและประชาชนขาดความเชื่อถือภาครัฐและการอยู่ร่วมกันของประชาสังคม
พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของรัฐนำที่ดินของรัฐไปเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลที่ใช้เอกสารอันมิชอบ อ้างว่าเป็นที่ดินของตน ดำเนินการก่อสร้างมูลนิธิ เป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย ผิดจริยธรรม ผิดหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีดำเนินการตามหน้าที่รับผิดชอบเพื่อเป็นตัวอย่างของคณะกรรมการธรรมาภิบาลของประเทศตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
นายกสมคาธุรกิจท่องเที่ยวกล่าวอีกว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและคณะกลุ่มองค์กรที่ร่วมคัดค้าน ใคร่ขอให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและรวดเร็วเพื่อความโปร่งใส ถูกต้อง อันจะเป็นการรักษาประโยชน์ส่วนรวม และเป็นแนวทางปกป้องพื้นที่สะพานข้ามแม่นำแคว ซึ่งเป็นโบราณสถานและมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศและของโลก ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี และแนวทางของการรักษาสมบัติส่วนรวมของประเทศชาติต่อไป
มีรายงานข่าวว่า หนังสือร้องเรียนดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรียังได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาญจนบุรีเป็นรายบุคคลเพื่อให้๕ระกรรมการเร่งดำเนินการพิจารณากรณีนี้อย่างเร่งด่วนอีกด้วย