ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภาค.4 รวบ 2 หนุ่มแต่ตัวภูมิฐาน เช่ารถเก๋งขับตระเวนลักเครื่องจักรกลการเกษตรทั่วภาคอีสาน สารภาพไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง วางแผนแต่งตัวดีเช่ารถเก๋งหรูตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจลอบถอดเครื่องยนต์คูโบต้าชาวบ้านขายต่อเกษตรกรราคาถูก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (7 ธ.ค.) พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รรท.ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภ.4 และ พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายสุรพงษ์ เอี่ยมป้อง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 ม.1 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และ นายอเนก จันล้วน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.2 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย พร้อมของกลาง เครื่องยนต์คูโบต้า จำนวน 26 เครื่อง ประแจปากตาย 8 ตัว ไขควง 2 ตัวใบเลื่อยตัดเหล็ก 1 อัน รถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กจ-4271 อุดรธานี และหนังสือสัญญาซื้อขายเครื่องคูโบต้า จำนวน 15 ชุด
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน บช.ภ.4 ติดตามจับกุมหลังขยายผลจับกุมนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้ที่ สภ.ศรีธาตุ ขณะกำลังพยายามถอดน๊อตสลักเครื่องยนต์คูโบต้าของประชาชน จึงทำการสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งแก๊งค์
พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รรท.ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกจับกุมได้ขณะกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหอพักแสนสุข ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังลงมือก่อเหตุตระเวนขโมยเครื่องยนต์คูโบต้าของกลุ่มเกษตรกร ในเขต จ.เลย-อุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู และขอนแก่น ซึ่งจะทำทีเป็นกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน ที่มักจะแต่งกายดีทำการเช่ารถจากเต็นท์รถมือสอง
โดยจะเลือกเช่าเฉพาะรถเก่งเท่านั้น วันละ 1,000 บาท ตระเวนขับไปตามอำเภอต่างๆเพื่อหาจังหวะและสถานที่ที่จะลงมือขโมยเครื่องยนต์คูโบต้า โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลรอบนอก ที่ง่ายต่อการลักขโมย ซึ่งหลังจากขโมยเสร็จจะนำมาเก็บไว้ในห้องพักเพื่อเจรจาขายให้กับกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเครื่องละ 7,000-10,000 บาท โดยลงมือขโมยมาแล้วไม่น้อยกว่า 40 เครื่อง
ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยนำเงินที่ได้นั้นไปใช้ในการเที่ยวเตร่และใช้จ่ายประจำวัน เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงร่วมกับพวกมาตั้งแก็งค์ ตระเวนขโมยเครื่องจักรกลการเกษตรทั่วทั้งภาคอีสาน
“จากการสอบปากคำพบพฤติกรรมของคนร้ายว่า เมื่อขโมยมาแล้วก็จะนำไปขายให้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง โดยอ้างตัวว่าเป็นเซลล์แมนขายเครื่องจักรกลการเกษตร ด้วยการทำสัญญาซื้อขายที่ถูกต้องและดูแล้วน่าเชื่อถือ จนทำให้มีเกษตรกรหลงเชื่อซื้อในราคาเครื่องละ 7,000-10,000 บาท แล้วแต่สภาพ ขณะที่การจับกุมครั้งนี้ได้ของกลางรวมกว่า 40 เครื่อง โดยจำนวน 26 เครื่องเจ้าของได้ติดต่อขอรับแล้ว” พล.ต.ต.สันติ กล่าว