xs
xsm
sm
md
lg

สลดสังคมไทยเสื่อมหนักสองพี่น้อง 14-15 ปี ลักเงินซื้อเบียร์เล่นเกม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์ - สลดสังคมไทยเสื่อมโทรมหนัก พ่อบังเกิดเกล้าสุดทนพฤติกรรมสุดทรามแจ้งจับลูกในไส้ สองพี่น้องวัย 14-15 ปีกาฬสินธุ์ ที่สมคบเพื่อนรุ่นน้องอายุเพียง 12 ปี ใช้อุบายลวงชาวบ้านทำทีตีสนิทว่าเป็นญาติพี่น้อง อาศัยจังหวะเผลอแอบขโมยเงินสด 10,000 บาท สารภาพต้องการนำไปกินเที่ยวกลางคืน และเล่นเกม

วันนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 10.30 น.ที่ห้องสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ต.ประเสริฐ ธรรมชัย สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิรัตน์ เขจรรัตน์ รอง สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้บุกเข้าไปจับกุม สองพี่น้อง นาย ป.และเด็กหญิง น. อายุ 15 และ 14 ปี ภายในบ้านพักในซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเด็กชาย ต. เพื่อควบคุมตัวไปสอบปากคำ หลังทำการสืบสวนพบว่าสองพี่น้องทั้งคู่ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ของชาวบ้าน

โดยเกิดเหตุเมื่อเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ภายในบ้านพักของนายธวัช โพธิ์แท่น อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 16 ตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้บิดาของนายป. และเด็กหญิงป. เป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพาไปจับกุมถึงบ้านพัก เนื่องจากไม่สามารถทนกับพฤติกรรมของลูกทั้งสองคนได้

จากการตรวจค้นในตัวนาย ป. เจ้าหน้าที่ได้พบธนบัตรใบละ 500 บาท 1 ใบ ธนบัตรใบละ 100 บาท 1 ใบ เป็นเงินทั้งหมด 600 บาท ที่ทั้งหมดระบุเป็นเงินที่เหลือจากการนำไปใช้เที่ยวเตร่ ซื้อเหล้าเบี้ยร์เลี้ยงเพื่อน ร้องเพลงคาราโอเกะ และเล่นเกมออนไลน์


นายธวัช โพธิ์แท่น อายุ 58 ปี ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านพัก เวลา 10.00 น.ได้มีเด็กหญิง 1 คนและเด็กชายอีก 2 คนเดินทางมาหาและบอกว่าเป็นญาติตน และญาติของนางทอง ภูคลองผา กันโดยอ้างว่าเป็นหลานของนายเคนซ่อ ซึ่งเป็นญาติสนิทในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเด็กหญิง น.อายุ 14 ปี และเด็กชาย ต. อายุ 12 ปี ได้พยายามชวนนางทองพูดคุยอยู่ตลอดเวลา โดยใช้เวลาพูดคุยกันนานเกือบ 30 นาที โดยที่นาย ป.นั้นได้ขอเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเข้าห้องน้ำ และดูสิ่งของต่างๆ กระทั่งทั้ง 3 คนได้กลับไป เมื่อมาดูกระเป๋าเงินกลับพบว่าเงินที่นำมาเก็บไว้ในกระเป๋าหายไปเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 10,760 บาท จึงเชื่อว่าเด็กทั้ง 3 คนได้ร่วมกันขโมยไป จึงได้เข้าไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี และนำเงินทั้งหมดมาคืน

“เงินทั้งหมดเป็นเงินที่เพิ่งนำข้าวไปขายมา โดยเก็บไว้เพื่อที่จะนำไปใช้หนี้ตามที่ทำสัญญาเงินกู้ไว้ แต่ยังไม่ได้เอาเงินไปใช้ก็มาถูกเด็กหลอกเอาเงินไปหมด ที่นับว่าสังคมในสมัยนี้เป็นมลพิษมากไม่สามารถไว้ใจใครได้ แม้เด็กที่ไร้เดียงสายังริเป็นขโมยถือว่าแสบจริงๆ ที่สำคัญต้องการเพียงเงินมาคืนให้ครบจำนวนเท่านั้น เพราะต้องการเอาเงินไปใช้หนี้ในสัญญาเงินกู้”

ด้าน นาย ป.และผู้ต้องหาอีก 2 คนได้ให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปสาเหตุหนึ่งคือต้องการประชดพ่อที่ไม่ค่อยให้ความสนใจ ที่หลังจากเลิกรากับแม่ก็แต่งงานใหม่ จะขอเงินแต่ละทีก็ลำบาก จึงต้องไปขโมยเงินของคนอื่นเพราะแต่ก่อนขโมยของคนในบ้านเพื่อนไปซื้อของ และขนมกิน กระทั่งถูกต่อว่าหลายต่อหลายครั้ง จึงตัดสินใจชวนเพื่อที่อยู่บ้านใกล้เคียงกันช่วยทำ

โดยเงินทั้งหมดได้แบ่งให้น้องคือ เด็กหญิง น. 3,000 บาท ส่วนเด็กชาย ต. ซึ่งเป็นผู้ช่วยก็แบ่งให้ 3,000 บาทเช่นกันส่วนที่เหลือประมาณ 4,760 บาท เป็นของตนเอง โดยเงินทั้งหมดได้นำไปเที่ยวเตร่ซื้อเบี้ยร์เลี้ยงเพื่อน ร้องเพลงคาราโอเกะ และเล่นเกมออนไลน์ตามร้านเกมต่างๆ


ด้าน พ.ต.ต.ประเสริฐ ธรรมชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากผู้เสียหายจากนั้นจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่สายสืบลงพื้นที่ตรวจสอบและหาคนร้าย จนกระทั่งได้รับแจ้งจากนายวัฒน์ สายสวัสดิ์ ที่ระบุว่าเป็นพ่อของโจรที่ขโมยเงินของผู้เสียหายรายล่าสุด และขอร้องให้เจ้าหน้าที่มาจับและควบคุมตัวไปส่งสถานพินิจฯ เนื่องจากลูกทั้งสองคนชอบลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่ของในบ้านที่เป็นของปู่ย่าตายาย และญาติพี่น้อง ซึ่งการก่อเหตุเช่นนี้ทำมาหลายต่อหลายครั้งแต่ครั้งนี้ทางพ่อของเด็กรับไม่ได้จึงได้มายังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพาเข้าไปควบคุมตัวภายในบ้านพักทีเดียว

จากการที่ผู้ปกครองได้สังเกตพฤติกรรมของเด็กทั้งสองคนมีพิรุธและยังมีเงินเที่ยวเตร่ เลี้ยงเหล้าเบียร์เพื่อฝูงอยู่เป็นอาทิตย์ จึงได้ไปสอบถามและทราบว่าขโมยเงินคนอื่นมา ซึ่งในใจรับไม่ได้จนต้องไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับลูกเพราะต้องการให้ลูกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่
 
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเด็กทั้งหมดยังมีพฤติกรรมติดเกมออนไลน์อย่างหนัก เนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในร้านเกมส์มากกว่าอยู่ที่โรงเรียนและบ้าน

สำหรับเด็กทั้งสองพี่น้องและโจรจิ๋ว อีก 1 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มอบตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบปากคำ ร่วมกับนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ที่เด็กทั้งหมดอาจจะต้องไปอยู่ในสถานพินิจเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่ผู้ปกครองให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

พ.ต.อ.จักฏ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลและต้องให้ความรู้เรื่องเกมใหม่ และต้องกวดขันให้เด็กมีระเบียบวินัยในการดำเนินชีวิต เพราะเกมส์ออนไลน์ที่มีหลากหลายได้สร้างพฤติกรรมเลียนแบบให้กับเด็กๆ ในการก่อคดีอาชญากรรมหลายรูปแบบที่ล้วนแล้วแต่เป็นผลพวงมาจากเกมส์ออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่สายตรวจได้กวดขันร้านเกมกว่า 30 แห่งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยห้ามมีเด็กต่ำกว่าเกณฑ์เข้าไปใช้บริการเพียงลำพัง รวมทั้งการเปิดปิดที่ต้องเป็นไปตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
กำลังโหลดความคิดเห็น