xs
xsm
sm
md
lg

BOI ตอ.เชื่อการเคลื่อนไหวองค์กรสวล.ไม่กระทบการลงทุนต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.บีโอไอภาคตะวันออก เชื่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทั้งที่นิคมฯมาบตาพุด และท่าเรือแหลมฉบัง จะไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่เริ่มส่งสัญญาณขยายการลงทุนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ที่คาดว่าในไตรมาส 3 ปีหน้าจะมีการขยายตัวมากขึ้น

นายเจษฏา ศรศึก ผู้อำนวยการ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ เผยว่าผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นปัญหามลพิษในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การไม่สามารถนำน้ำฝนในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีมาบริโภคได้หลังเกิดการกระจายตัวของภาคอุตสหากรรม และล่าสุดเหตุสารเคมีรั่วในท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้ เคียงได้รับผลกระทบ จนองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมออกมาเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางยุติปัญหา จะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

โดยเฉพาะแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษด้านสิ่งแวดล้อมในมาบตาพุดของรัฐบาล ที่ในวันนี้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาข้อยุติ ถือเป็นแนวทางที่สามารถสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติได้เป็นอย่างดี

“นักลงทุนต่างชาติ ได้เห็นภาพความไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวของรัฐบาล จนมีการตั้งท่านอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นเป็นประธานในการแก้ไขปัญหา ซึ่งการร่วมมือกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของทุกฝ่ายจะช่วยให้สถานการณ์ทางการลงทุนของไทยดีขึ้น”

ขณะที่เหตุการณ์สารเคมีรั่วในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จนเกิดการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนในชุมชนแหลมฉบังนั้น ในช่วงแรกได้รับการสอบถามจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่มีแผนขยายการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออกในปีหน้าว่าผลกระทบดังกล่าวจะส่งต่อกลุ่มนักลงทุนหรือไม่ แต่หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐ ได้เข้ามาเยียวยาปัญหาพร้อมๆ กับการประกาศยกเลิกเขตภัยพิบัติของจังหวัดชลบุรี ก็ทำให้นักลงทุนเกิดความสบายใจมากขึ้น

“ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการเคลื่อนไหวขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีผลต่อการตัดสินใจขยายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในปีหน้า ซึ่งการลงทุนในปีหน้ามีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นหลังทิศทางทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว เห็นได้จากการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มอมตะนคร หรือแม้แต่การส่งสัญญาณว่าจะเข้ามาของกลุ่ม อี-โค คาร์ ที่ได้รับการส่งเสริมไปก่อนหน้า โดยคาดว่าในไตรมาส 3 ของปีหน้าการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมจะชัดเจนขึ้น”

นายเจษฏา ยังเผยอีกว่าแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาพการขยายการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้มั่นใจว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมีการขยายการลงทุนในส่วนของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น