ตาก- ร้านทองชายแดนแม่สอด ซบเซา ยอดขายลดวูบ 60-70% เหตุลูกค้าหมดกำลังซื้อ หวังราคาลดลง ผู้ประกอบการชี้ราคาควรจะอยู่ที่บาทละ 16,000-17,000 บาทเท่านั้น จึงจะทำให้ซื้อง่าย ขายคล่อง
นายบุญชัย กิจถาวรสกุล เจ้าของร้านทองกิจเจริญ อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะประธานชมรมผู้ประกอบการร้านทองอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้ยอดการขายทองคำทั้งทองแท่งและรูปพรรณ ของผู้ประกอบการร้านทอง มียอดที่ลดลงจากช่วยก่อนประมาณ 60-70% เนื่องจากลูกค้าทั้งชาวไทย ในพื้นที่ และชาวพม่า จากจังหวัดเมียวดี ขาดกำลังซื้อ เพราะราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เขาบอกว่า ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาพุ่งสูงจากบาทละ 17,000 บาท ไปถึงบาทละ 19,000 บาท และมาลดลงในช่วงที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจในดูไบเหลือประมาณ 18,900 บาท แต่ราคาก็ยังไม่นิ่ง ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการค่อนข้างมาก ทำให้การซื้อ-ขาย หยุดชะงัก โดยจะมีการซื้อ ขายเฉพาะ กลุ่มที่มีฐานะค่อนข้างดีมาก เท่านั้น ส่วนลูกค้าทั่วไปต่างหยุดซื้อเพื่อรอดูท่าทีว่าราคาอาจจะลดลงหรือคงที่เพื่อความแน่ใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน ตลาดคงจะกลับมาดีในช่วงเทศกาลปีใหม่
“ตลอดสัปดาห์นี้ ร้านทองที่มีอยู่ใน อ.แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง กว่า 30 แห่ง ต้องได้รับผลกระทบกับราคาทองที่พุ่งสูง ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งความจริงแล้วการที่ราคาทองพุ่งสูงอย่างรุนแรง ไม่ได้ส่งผลดีกับร้านทอง ในทางกลับกัน กลับทำให้เงียบเหงามาก ซึ่งความจริงแล้วราคาทองรูปพรรณ ควรจะอยู่ในระดับบาทละ 16,000-17,000 บาท เพราะจะทำให้มีการซื้อ-ขายทองตามปกติ ขณะนี้หากราคายังไม่ลงและเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะมีลูกค้ามาซื้อก็ไม่มี ทางร้านก็ได้รับผลกระทบที่ตามมา”
รายงานข่าวแจ้งว่า ร้านค้าจำหน่ายทองคำรูปพรรณ และทองแท่ง แถบแม่สอด และอำเภอใกล้เคียงกว่า 30 แห่ง ขณะนี้ต่างซบเซา และเงียบเหงา หลังจากที่ทองคำมีราคาสูงขึ้น และทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่หายไปจำนวนมาก มีเพียงผู้นำทองไปจำหน่าย หรือรับฝากเท่านั้น โดยเฉพาะชาวพม่าเป็นลูกค้าที่ส่วนใหญ่เคยไปซื้อทองคำในแม่สอดได้หายไปเกือบทั้งหมด
ขณะเดียวกันบรรดาร้านทองบางแห่งชะลอการเปิดร้านค้า และเริ่มหวาดผวาการโจรกรรมทองคำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแม่สอดเป็นเมืองชายแดนไทย-พม่า