เลย - สุดทน! เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าภูหลวง ถูกผู้ใหญ่บ้านหยามเกียรติเป็นชู้กับภรรยา เผยเคยยื่นคำขาดให้เลิกคบกันและจะให้อภัย แต่กลับถูกย่ำยีศักดิ์ศรีซ้ำ จำเป็นต้องยิงดับ
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.ท.พานิช อานุภาพประเสริฐ สารวัตรเวร สภ.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 โรงพยาบาลวังสะพุง ว่า ได้รับโทรศัพท์จากชายไม่ทราบชื่อด้วยเสียงสั่นเครือว่า ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสะพุง ว่า ตนได้ยิงผู้ใหญ่บ้านบ้านยางเดี่ยว หมู่ 10 ต.เขาหลวง เสียชีวิตภายในบ้านของตนให้รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุโดยด่วน
จึงเดินทางพร้อม พ.ต.ต.รัฐพล เพ็ญสงคราม สวป.แพทย์เวรโรงพยาบาลวังสะพุง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคีรีธรรม จ.เลย ไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบ นายสาครุฑ เพชรล้อมพลอย อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 10 บ้านยางเดี่ยว ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยป้องกันโคกนกกระบา ยืนรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน พร้อมยึดอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 กระสุน 3 นัด
จากนั้น จึงเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ภายในบ้านชั้นล่างหน้าห้องครัว พบ นายผาง ต้นคำ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านยางเดี่ยว หมู่ 10 นอนคว่ำศีรษะเอียง สภาพเปลือยเปล่าในมือทั้งสองยังกำเสื้อผ้า ที่ศรีษะด้านหลังมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 1 นัด กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำศพไปไว้ที่ รพ.วังสะพุง
สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ตนทำงานอยู่ที่สำนักเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่เขตอำเภอภูเรือ ห่างจากบ้านพักราว 40 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที นานๆ จึงกลับบ้าน แต่เมื่อวานนี้มีการประชุมที่สำนักงานกว่าจะเลืกประชุมก็กินเวลาถึง 2 ทุ่มกว่า ตรวจความเรียบร้อยจึงเดินทางกลับบ้าน พอถึงบ้านราว 4 ทุ่มจึงไปเคาะประตูเรียกนางหนูพลอย ภรรยาให้มาเปิดประตู แต่วันนี้กลับมาเปิดช้าผิดปกติ ภายในบ้านก็ไม่เปิดไฟ
ตนจึงกระแทกเพื่อเปิดประตูเป็นจังหวะเดียวกับ นางหนูพลอย เปิดประตูพอดี ตนจึงชักปืนพร้อมไฟฉายส่องเข้าไปในบ้าน เห็นผู้ชายกำลังวิ่งไปเปิดประตูครัวเพื่อหลบหนี ตนวิ่งไปประชิดตัว แต่ภรรยาเข้ามาขวางพร้อมร้องห้ามด้วยบันดาลโทสะ จึงจ่อยิงไปที่ศีรษะ 1 นัดล้มลงพร้อมเล็งไปทางภรรยา แต่ถูกปัดกระสุนลั่นไปถูกบ้านชั้นบน
จากนั้น นางหนูพลอย วิ่งหนีเปิดประตูบ้านหายไปกับความมืด ตนจึงออกไปนอกบ้านเรียกให้เจ้าหน้าที่มารับตน
ผู้ต้องหาจึงเล่าเรื่องที่ผ่านมาอีกว่า ตนทราบระแคะระคายจากเพื่อนบ้าน ว่า ภรรยาตนเป็นชู้กับผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ตนมีงานทำมากต้องออกลาดตระเวณบนเขานานหลายวันกว่าจะกลับบ้านและเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา กลับมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มเห็นผู้ใหญ่คนดังกล่าวหลบออกจากหลังบ้านในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว
ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม แต่ก็ไม่ยอมรับ ตนจึงบอกไปว่าถ้าเป็นจริงตามที่ชาวบ้านเขาลือกัน ขอให้เลิกคบกัน ตนจะให้อภัย แต่ก็มาพบเหตุการณ์ที่ไม่สามารถให้อภัยได้อีก ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ถูกผู้ใหญ่บ้านที่มาเป็นชู้กับลูกบ้าน ตนทนไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยทำงานทางราชการกับนายสาครุฑ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนดี ใจเย็น อัธยาศัยดี รู้สึกเห็นใจ ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะไปทำแผน ประกอบคำรับตำสารภาพ เนื่องจากรู้สึกสะเทือนใจ ไปอยากไปที่บ้านนี้อีกเลย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.ท.พานิช อานุภาพประเสริฐ สารวัตรเวร สภ.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 โรงพยาบาลวังสะพุง ว่า ได้รับโทรศัพท์จากชายไม่ทราบชื่อด้วยเสียงสั่นเครือว่า ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสะพุง ว่า ตนได้ยิงผู้ใหญ่บ้านบ้านยางเดี่ยว หมู่ 10 ต.เขาหลวง เสียชีวิตภายในบ้านของตนให้รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุโดยด่วน
จึงเดินทางพร้อม พ.ต.ต.รัฐพล เพ็ญสงคราม สวป.แพทย์เวรโรงพยาบาลวังสะพุง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคีรีธรรม จ.เลย ไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบ นายสาครุฑ เพชรล้อมพลอย อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 10 บ้านยางเดี่ยว ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยป้องกันโคกนกกระบา ยืนรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน พร้อมยึดอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 กระสุน 3 นัด
จากนั้น จึงเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ภายในบ้านชั้นล่างหน้าห้องครัว พบ นายผาง ต้นคำ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านยางเดี่ยว หมู่ 10 นอนคว่ำศีรษะเอียง สภาพเปลือยเปล่าในมือทั้งสองยังกำเสื้อผ้า ที่ศรีษะด้านหลังมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 1 นัด กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำศพไปไว้ที่ รพ.วังสะพุง
สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ตนทำงานอยู่ที่สำนักเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่เขตอำเภอภูเรือ ห่างจากบ้านพักราว 40 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที นานๆ จึงกลับบ้าน แต่เมื่อวานนี้มีการประชุมที่สำนักงานกว่าจะเลืกประชุมก็กินเวลาถึง 2 ทุ่มกว่า ตรวจความเรียบร้อยจึงเดินทางกลับบ้าน พอถึงบ้านราว 4 ทุ่มจึงไปเคาะประตูเรียกนางหนูพลอย ภรรยาให้มาเปิดประตู แต่วันนี้กลับมาเปิดช้าผิดปกติ ภายในบ้านก็ไม่เปิดไฟ
ตนจึงกระแทกเพื่อเปิดประตูเป็นจังหวะเดียวกับ นางหนูพลอย เปิดประตูพอดี ตนจึงชักปืนพร้อมไฟฉายส่องเข้าไปในบ้าน เห็นผู้ชายกำลังวิ่งไปเปิดประตูครัวเพื่อหลบหนี ตนวิ่งไปประชิดตัว แต่ภรรยาเข้ามาขวางพร้อมร้องห้ามด้วยบันดาลโทสะ จึงจ่อยิงไปที่ศีรษะ 1 นัดล้มลงพร้อมเล็งไปทางภรรยา แต่ถูกปัดกระสุนลั่นไปถูกบ้านชั้นบน
จากนั้น นางหนูพลอย วิ่งหนีเปิดประตูบ้านหายไปกับความมืด ตนจึงออกไปนอกบ้านเรียกให้เจ้าหน้าที่มารับตน
ผู้ต้องหาจึงเล่าเรื่องที่ผ่านมาอีกว่า ตนทราบระแคะระคายจากเพื่อนบ้าน ว่า ภรรยาตนเป็นชู้กับผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ตนมีงานทำมากต้องออกลาดตระเวณบนเขานานหลายวันกว่าจะกลับบ้านและเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา กลับมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มเห็นผู้ใหญ่คนดังกล่าวหลบออกจากหลังบ้านในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว
ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม แต่ก็ไม่ยอมรับ ตนจึงบอกไปว่าถ้าเป็นจริงตามที่ชาวบ้านเขาลือกัน ขอให้เลิกคบกัน ตนจะให้อภัย แต่ก็มาพบเหตุการณ์ที่ไม่สามารถให้อภัยได้อีก ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ถูกผู้ใหญ่บ้านที่มาเป็นชู้กับลูกบ้าน ตนทนไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยทำงานทางราชการกับนายสาครุฑ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนดี ใจเย็น อัธยาศัยดี รู้สึกเห็นใจ ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะไปทำแผน ประกอบคำรับตำสารภาพ เนื่องจากรู้สึกสะเทือนใจ ไปอยากไปที่บ้านนี้อีกเลย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป