เชียงราย - อากาศหนาวทำหมอกหนาจัดในหลายพื้นที่เชียงราย เริ่มส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้นทุกขณะ ล่าสุดดาบตำรวจ ขับรถประสานงากับชาวบ้าน ทำให้ตัวเองดับคาที่ พร้อมคนขับรถคู่กรณี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย
เมื่อเวลา 00.45 น.วันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ท.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวรคดีจราจร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนถนนสายเชียงราย-เทิง บริเวณหมู่บ้านร่องเบ้อ หมู่ 2 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จึงพร้อมด้วยนายแพทย์กันต์ ทองแถม ณ อยุธยา แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองช่องจราจรและทางโค้ง โดยมีรถยนต์รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บบ-9131 เชียงราย และกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีแดง หมายเลขทะเบียน 5727 เชียงราย สภาพพึ่งชนประสานงากันบนช่องทางด้านขวานับจากขาออกเมือง จนทำให้รถขวางถนนและด้านหน้ารถพังยับเยินไปทั้งสองคัน
จากการตรวจสอบภายในรถคันแรกพบผู้เสียชีวิต 1 คนโดยยังอยู่ในชุดตำรวจ เมื่อตรวจหลักฐานชื่อว่า ด.ต.บัณฑิต ทิพย์นพคุณ อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ภ.เชียงราย มีประวัติเป็นนักเรียนพลตำรวจภูธรลำปางรุ่นที่ 32 อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 20 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย
ส่วนรถคันหลังก็พบคนขับเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุพรม พรมรัตน์ อายุ 44 ปี มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 17 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยสภาพศพของทั้งสองคนพบว่าที่หน้าอกถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนกระดูกซี่โครงหัก ทิ่มปอดหรือหัวใจ อันเกิดจากแรงชนของรถ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ทราบชื่อต่อมาว่านางชูศรี วันทา อายุ 47 ปี ภรรยาของนายสุพรม และนางพร สุภารัตน์ ซึ่งโดยสารไปด้วย จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้ว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทาง ด.ต.บัณฑิต ได้ขับรถยนต์จาก ต.ห้วยสัก มุ่งหน้าไปทาง อ.เมือง ตามลำพังเพื่อจะไปเข้าเวรรับราชการตามปกติ ส่วนนายสุพรม เดินทางออกจาก อ.เมือง มุ่งหน้าไปทาง ต.ห้วยสัก หลังร่วมกับภรรยาพานางพร ไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ประกอบกับเป็นฤดูหนาวทำให้หมอกลงจัดถนนลื่น เมื่อทั้งคู่ขับขี่ไปด้วยความเร็วสูงจึงทำให้คันใดคันหนึ่งอาจจะไถลลื่นหรือแหกโค้งไปยังอีกช่องทางหนึ่ง ทำให้ชนกันอย่างแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พนักงานสอบสวนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกวิทยาการ ภ.เชียงราย ไปตวรจสอบสถานที่เกิดเหตุและบันทึกข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ ก่อนนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยในส่วนของ ด.ต.บัณฑิต นั้นเนื่องจากอยู่ระหว่างการเข้าไปเข้าเวรยามกับต้นสังกัด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบต่อไปแล้ว
เมื่อเวลา 00.45 น.วันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ท.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวรคดีจราจร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบนถนนสายเชียงราย-เทิง บริเวณหมู่บ้านร่องเบ้อ หมู่ 2 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จึงพร้อมด้วยนายแพทย์กันต์ ทองแถม ณ อยุธยา แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองช่องจราจรและทางโค้ง โดยมีรถยนต์รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บบ-9131 เชียงราย และกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีแดง หมายเลขทะเบียน 5727 เชียงราย สภาพพึ่งชนประสานงากันบนช่องทางด้านขวานับจากขาออกเมือง จนทำให้รถขวางถนนและด้านหน้ารถพังยับเยินไปทั้งสองคัน
จากการตรวจสอบภายในรถคันแรกพบผู้เสียชีวิต 1 คนโดยยังอยู่ในชุดตำรวจ เมื่อตรวจหลักฐานชื่อว่า ด.ต.บัณฑิต ทิพย์นพคุณ อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ภ.เชียงราย มีประวัติเป็นนักเรียนพลตำรวจภูธรลำปางรุ่นที่ 32 อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 20 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย
ส่วนรถคันหลังก็พบคนขับเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุพรม พรมรัตน์ อายุ 44 ปี มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 17 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยสภาพศพของทั้งสองคนพบว่าที่หน้าอกถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนกระดูกซี่โครงหัก ทิ่มปอดหรือหัวใจ อันเกิดจากแรงชนของรถ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ทราบชื่อต่อมาว่านางชูศรี วันทา อายุ 47 ปี ภรรยาของนายสุพรม และนางพร สุภารัตน์ ซึ่งโดยสารไปด้วย จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้ว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทาง ด.ต.บัณฑิต ได้ขับรถยนต์จาก ต.ห้วยสัก มุ่งหน้าไปทาง อ.เมือง ตามลำพังเพื่อจะไปเข้าเวรรับราชการตามปกติ ส่วนนายสุพรม เดินทางออกจาก อ.เมือง มุ่งหน้าไปทาง ต.ห้วยสัก หลังร่วมกับภรรยาพานางพร ไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ประกอบกับเป็นฤดูหนาวทำให้หมอกลงจัดถนนลื่น เมื่อทั้งคู่ขับขี่ไปด้วยความเร็วสูงจึงทำให้คันใดคันหนึ่งอาจจะไถลลื่นหรือแหกโค้งไปยังอีกช่องทางหนึ่ง ทำให้ชนกันอย่างแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
พนักงานสอบสวนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกวิทยาการ ภ.เชียงราย ไปตวรจสอบสถานที่เกิดเหตุและบันทึกข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ ก่อนนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยในส่วนของ ด.ต.บัณฑิต นั้นเนื่องจากอยู่ระหว่างการเข้าไปเข้าเวรยามกับต้นสังกัด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบต่อไปแล้ว
