กาฬสินธุ์ -อดีตข้าราชการทหารจูงแขนลูกชายโร่ขึ้นโรงพัก แจ้งจับลูกชายผกก.พร้อมสาวใหญ่ปล่อยเงินกู้ หลังจากทั้งสองคนร่วมกันบุกเข้าบ้านชักปืนขู่ สาเหตุไม่พอใจที่ลูกชายถามเพื่อนร่วมห้องว่าพ่อโอนอุ้ม
วันนี้ (19 พ.ย.) ร.ต.สนิท พลเยี่ยม อายุ 52 ปี อดีตข้าราชการทหาร สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพรม พร้อมด้วย นางวิไล พลเยี่ยม อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลข 1/5 ม.13 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พานายจักกฤษณ์ พลเยี่ยม อายุ 18 ปี ลูกชาย นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบัวขาว และเป็นนักกีฬาตัวแทนของเขต 4 เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ต.ธนกฤต พลเยี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนิสร ศรีแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และนางบุญรัตน์ วีระยสมประสงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 537 ม.12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากทั้งสองได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ลูกชายภายในบ้านพัก
ร.ต.สนิท กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนและภรรยากลับเข้าบ้าน เห็นนายจักรกฤษณ์มีท่าทางผิดปกติ ตื่นตกใจกลัว จึงพยายามสอบถามลูกชายและเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 17.00 น.นางบุญรัตน์ ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน และผู้ชายรูปร่างอ้วน สูงใหญ่ รู้เพียงชื่อเล่นว่าดรีม และทราบชื่อจริงภายหลังว่า นายธนิสร ศรีแก้ว ลูกชาย พ.ต.อ.ภัทรพล ศรีแก้ว ปัจจุบันเป็นผกก.สภ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ได้ขับรถยนต์อีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว ทะเบียน กข7763 กาฬสินธุ์ มาจอดหน้าบ้าน พร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อตนเดินเข้ามาในบ้าน
จากนั้น นางบุญรัตน์ ได้ถามตนว่าใครเป็นคนพูด ได้ยินมาจากที่ไหน ส่วน นายธนิสร ได้ชักปืนออกจากเอว และกระชากลำกล้อง ปลดเซฟออก พร้อมกับขู่ตนว่า หากรู้ว่าใครเป็นคนพูดก็บอกมาดีๆ จะไปยิงมัน ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไม่ทราบจริงๆ จากนั้นทั้งสองจะเดินไปขึ้นรถและขับออกไป
ร.ต.สนิท กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาครอบครัวของตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง กับ นางบุญรัตน์ และนายธนิสร แต่อย่างใด แต่ได้สอบถามลูกชายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น จึงทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้สอบถาม พูดคุยกับ นางสาวปราฟดา วีระยสมประสงค์ เพื่อนสนิมที่ร่วมชั้นเดี่ยวกัน ซึ่งเป็นลูกสาวของนางบุญรัตน์ มีอาชีพปล่อยเงินกู้
การสนทนาลูกชายได้ถามว่า มีคนพูดว่าพ่อของเธอโดนอุ้มใช่หรือไม่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากเพื่อน จนกระทั่งช่วงหัวค่ำ ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งเชื่อว่า การที่ นางบุญรัตน์ และนายธนิสร เข้าไปข่มขู่ลูกชาย น่าจะมาจากสาเหตุที่ที่ลูกชายถามเพื่อนเรื่องพ่อโดนอุ้มอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตนจึงพาลูกชายเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสองคน เพราะถือว่าการกระทำดังกล่าวอุอาจ ข่มขู่แม้กระทั่งเด็ก เหมือนกับบ้านเมืองไม่มีขื่อ มีแป โดยเฉพาะนายธนิสร ซึ่งมีพ่อเป็นถึง ผกก.แต่กลับมาผิดข่มขู่ชาวบ้าน จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.ต.ธนกฤต พลเยี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้สอบปากคำผู้เสียหาย ผู้ถูกกล่าวหา และพยานไปบ้างแล้ว โดยฝ่ายผู้เสียหายรวมทั้งพยานก็ยืนยันว่าทั้งสองคนบุกเข้าไปในบ้าน พร้อมทั่งชักปืนออกมาขู่ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาขณะนี้ได้ให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าได้เข้าไปสอบถามนายจักรกฤษณ์ในบ้านจริง แต่ไม่ได้พกปืนและชักปืนออกมาข่มขู่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้แจ้งข้อกล่าวหามีพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว แต่ขอยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน