ศูนย์ข่าวศรีราชา -ตร.ชลบุรี ปูพรม ตรวจสอบทั้งในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง หาเบาะแสคนร้าย พร้อมให้ผู้เสียหายและพลเมืองดี ที่สามารถจดจำใบหน้าคนร้ายร่วมกันสเกตซ์ภาพ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ เพื่อช่วยสอดส่องจับกุม
จากกรณี คนร้ายบุกเดี่ยวสวมหมวกกันน็อกสีฟ้าขาวปิดหน้า อำพรางใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้ เจ้าของร้านทองชื่อดัง ทัศนีย์ กลาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ของนายวิโรจน์ และนางทัศนีย์ ศิริวัฒโกสามีภรรยา ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำรูปพรรณหนักรวม 32 บาท มูลค่าเกือบ 6 แสนบาท เมื่อบ่ายวานนี้ หลบหนีลอยนวล
ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ ตำรวจภูธรพนัสนิคม ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จำนวนหลายนาย ออกทำการสืบสวนสอบสวนกันอย่างเต็มที่ โดยนำรูปพรรณสันฐานของคนร้ายไปตรวจสอบโรงแรม สถานที่พักต่าง ๆ ทั้งใน จ.ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง คือ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจังหวัดติดต่อ แต่ก็ยังไม่พบ และยังแบ่งกำลังออกไปตรวจสอบ รถฮอนด้า คลิก สีดำ ที่คนร้ายใช้ยานพาหนะ ตามร้านขายรถจยย.ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขายรถ จยย.ลักษณะเดียวกับที่คนร้ายใช้ ให้ใครไปบ้าง
ด้าน พ.ต.อ.พิสิฐ โปรยรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.พนัสนิคม ได้นำผู้เสียหายและพลเมืองดี ที่เห็นและช่วยจับคนร้าย แต่คนร้ายรูปร่างใหญ่ จึงสะบัดหลุด แล้วขี่ จยย.หายไป มาให้ช่วยกันสเก็ตซ์ใบหน้า คนร้าย เนื่องจาก ขณะที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ได้เปิดบังลมที่หมวกกันน็อก ทำให้เห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ ร้านทอง และโรงแรม สถานที่พักต่าง ๆ เพื่อเป็นเบาะแส และช่วยแจ้ง ตร.จับกุม
ส่วนที่ห้องประชุม กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี เรียก ตร.ในสังกัดประชุม เพื่อคลี่คลายคดี กล่าวว่า ขณะนี้ พบว่ามีความคืบหน้า เพราะผู้เสียหายและพลเมืองดี เห็นใบหน้าขณะลงมือจี้ชิงทอง และสามารถจดจำใบหน้าได้เป็นอย่างดี คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะรู้จัก อ.พนัสนิคมได้เป็นอย่างดี เพราะดูจากเส้นทางหลบหนี ที่ใช้เป็นเส้นทางลัดที่ไม่ใช่เส้นทางหลักที่คนทั่วไปจะรู้จักได้
