ฉะเชิงเทรา - เจ้าอาวาสรูปใหม่วัดโสธร เริ่มลุยงานสางปัญหาภายในวัดโสธรวันแรก แอบเรียกคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทั้ง 11 ประชุมด่วน แบบลับเฉพาะเป็นการภายในแล้ว ขณะหลังการประชุมทำบรรยากาศชื่นมื่น ด้านกลุ่มผู้ช่วยบอท่าเผยหากแนวทางการแก้ไขปัญหาเป็นไปตามเป้าประสงค์ จากความเห็นส่วนใหญ่ของคณะสงค์ภายในวัด คาดปัญหาทุกอย่างจะจบสิ้นลงง่าย
วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 18.00 น.พระครูโสภณ สรกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในวันนี้เมื่อเวลา 13.30 น.พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ ที่เพิ่งเดินทางเข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้เรียกประชุมผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร เป็นการภายในทั้ง 11 รูป โดยมีพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางมาเป็นองค์ประธาน (พี่เลี้ยง) ร่วมรับฟังการประชุมลับ วาระแรกในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งในการประชุม เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าอาวาสรูปใหม่ ได้ให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 11 รูปกล่าวแสดงตน พร้อมรายงานหน้าที่ความรับผิดชอบภายในวัดของแต่ละรูป ให้ที่ประชุมได้รับทราบ จากนั้นเจ้าคณะจังหวัดได้บอกกับคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสแต่ละรูป ว่า ผู้ใดเคยรับผิดชอบหน้าที่อะไร ก็ให้ทำไปตามนั้นเหมือนเดิม พร้อมทั้งสอบถามค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องเงินของแต่ละแผนกด้วยว่า จุดใดต้องใช้เงินเท่าใดในแต่ละเดือน
โดยในที่ประชุมคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ได้เสนอเงื่อนไขต่อที่ประชุม 3 ข้อหลักใหญ่ คือ 1. เรื่องการนับเงินบริจาคภายในพระอุโบสถทั้งสองหลัง ต้องการให้นำมานับรวมกัน โดยที่มีคณะกรรมการของทางวัดควบคุมดูแล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เข้ามารับฝากเงินถึงที่ในจุดตรวจนับเงิน ซึ่งแต่เดิมเคยแยกกันนับคนละที่ จนเกิดความระแวงน่าเชื่อว่าไม่มีความโปร่งใสเกิดขึ้นในการนำฝากเงินของพระอุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้สอบถามความเห็นจากผู้รับผิดชอบพระอุโบสถหลังใหม่โดยตรง ซึ่ง พระพิมลภาวนาพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ผู้ดูแลพระอุโบสถหลังใหม่ ได้รับปากว่าสามารถดำเนินการตามที่ประชุมมีความเห็นในวันนี้ได้
ส่วนข้อ 2.คือ ที่ประชุมได้เสนอให้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรวัด ตามกฎของมหาเถรสมาคม ที่ต้องปรึกษาพระภายในวัดให้พิจารณาร่วมกันก่อน ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ต้องการให้เปลี่ยนไวยาวัจกรวัดคนใหม่ โดยไม่ต้องการคนเดิม ที่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นภายในวัดจนเกิดความวุ่นวายขึ้น และให้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรวัดเป็นคณะ หลายๆ คน ไม่ใช่ผูกขาดแต่เพียงลำพังคนเดียวเหมือนในอดีต ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ และเจ้าคณะจังหวัดได้ขอนำกลับไปคิดดูก่อน ที่จะนำกลับมาเข้าที่ประชุมอีกครั้ง และได้ขอให้คนเก่าได้ส่งมอบงานให้เรียบร้อยก่อน
และ ข้อ 3.ให้มีการประชุมผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในทุกๆ วันที่ 3 ของเดือน เวลา 17.00 น.เพื่อให้แต่ละรูปนำงานมาเสนอ และรับฟังความคิดเห็นจากคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปอื่นๆ ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้ยอมรับเงื่อนไขทุกอย่าง ก่อนที่จะเลิกประชุม ภายในเวลา 1 ชม.ก่อนที่เจ้าอาวาสวัดรูปใหม่จะได้กำชับขอให้ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้ดูแลปกครองสามเณรทั้งหมด กว่า 300 รูป (พระครูปลัดสันติภัทร) ให้ดูแลสามเณรภายในวัดให้เรียบร้อยไม่ให้กลับมาสร้างปัญหา จุดประทัดเสียงดังจนเกิดความวุ่นวายเหมือนกับเมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ซึ่ง พระครูปลัดสันติภัทร ได้รับปากว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก พระครูโสภณ สรกิจ กล่าว
พระครูโสภณ สรกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 9 รูป ที่ได้เคยออกมาเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น มีความเห็นว่า หากเจ้าอาวาสรูปใหม่ เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเรื้อรังมานานภายในวัดโสธรได้ ก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามนโยบายทุกอย่าง ที่จะพัฒนาวัดให้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการออกมาเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ ได้บอกกับที่ประชุมว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นแล้ว ให้มันแล้วกันไป” จะไม่ติดใจเอาความซึ่งกันและกันต่อไป พระครูโสภณ สรกิจ กล่าวในที่สุด
ขณะที่ พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้เกี่ยวกับการจัดการภายในวัดโสธรนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอน ใครมีหน้าที่อะไรก็ให้ทำกันไป ปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วก็มีวิธีแก้ หากยังไม่เกิดก็ไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้อโหสิซึ่งกันและกันไป ไม่มีการถือโทษโกรธเคืองอะไรกัน เบื้องต้นนี้ต้องการให้เกิดความสงบเกิดขึ้น
วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 18.00 น.พระครูโสภณ สรกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในวันนี้เมื่อเวลา 13.30 น.พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ ที่เพิ่งเดินทางเข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้เรียกประชุมผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร เป็นการภายในทั้ง 11 รูป โดยมีพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางมาเป็นองค์ประธาน (พี่เลี้ยง) ร่วมรับฟังการประชุมลับ วาระแรกในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งในการประชุม เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าอาวาสรูปใหม่ ได้ให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 11 รูปกล่าวแสดงตน พร้อมรายงานหน้าที่ความรับผิดชอบภายในวัดของแต่ละรูป ให้ที่ประชุมได้รับทราบ จากนั้นเจ้าคณะจังหวัดได้บอกกับคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสแต่ละรูป ว่า ผู้ใดเคยรับผิดชอบหน้าที่อะไร ก็ให้ทำไปตามนั้นเหมือนเดิม พร้อมทั้งสอบถามค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องเงินของแต่ละแผนกด้วยว่า จุดใดต้องใช้เงินเท่าใดในแต่ละเดือน
โดยในที่ประชุมคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ได้เสนอเงื่อนไขต่อที่ประชุม 3 ข้อหลักใหญ่ คือ 1. เรื่องการนับเงินบริจาคภายในพระอุโบสถทั้งสองหลัง ต้องการให้นำมานับรวมกัน โดยที่มีคณะกรรมการของทางวัดควบคุมดูแล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เข้ามารับฝากเงินถึงที่ในจุดตรวจนับเงิน ซึ่งแต่เดิมเคยแยกกันนับคนละที่ จนเกิดความระแวงน่าเชื่อว่าไม่มีความโปร่งใสเกิดขึ้นในการนำฝากเงินของพระอุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้สอบถามความเห็นจากผู้รับผิดชอบพระอุโบสถหลังใหม่โดยตรง ซึ่ง พระพิมลภาวนาพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ผู้ดูแลพระอุโบสถหลังใหม่ ได้รับปากว่าสามารถดำเนินการตามที่ประชุมมีความเห็นในวันนี้ได้
ส่วนข้อ 2.คือ ที่ประชุมได้เสนอให้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรวัด ตามกฎของมหาเถรสมาคม ที่ต้องปรึกษาพระภายในวัดให้พิจารณาร่วมกันก่อน ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ต้องการให้เปลี่ยนไวยาวัจกรวัดคนใหม่ โดยไม่ต้องการคนเดิม ที่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นภายในวัดจนเกิดความวุ่นวายขึ้น และให้มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรวัดเป็นคณะ หลายๆ คน ไม่ใช่ผูกขาดแต่เพียงลำพังคนเดียวเหมือนในอดีต ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ และเจ้าคณะจังหวัดได้ขอนำกลับไปคิดดูก่อน ที่จะนำกลับมาเข้าที่ประชุมอีกครั้ง และได้ขอให้คนเก่าได้ส่งมอบงานให้เรียบร้อยก่อน
และ ข้อ 3.ให้มีการประชุมผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในทุกๆ วันที่ 3 ของเดือน เวลา 17.00 น.เพื่อให้แต่ละรูปนำงานมาเสนอ และรับฟังความคิดเห็นจากคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปอื่นๆ ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้ยอมรับเงื่อนไขทุกอย่าง ก่อนที่จะเลิกประชุม ภายในเวลา 1 ชม.ก่อนที่เจ้าอาวาสวัดรูปใหม่จะได้กำชับขอให้ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้ดูแลปกครองสามเณรทั้งหมด กว่า 300 รูป (พระครูปลัดสันติภัทร) ให้ดูแลสามเณรภายในวัดให้เรียบร้อยไม่ให้กลับมาสร้างปัญหา จุดประทัดเสียงดังจนเกิดความวุ่นวายเหมือนกับเมื่อเย็นวานที่ผ่านมา ซึ่ง พระครูปลัดสันติภัทร ได้รับปากว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก พระครูโสภณ สรกิจ กล่าว
พระครูโสภณ สรกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 9 รูป ที่ได้เคยออกมาเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น มีความเห็นว่า หากเจ้าอาวาสรูปใหม่ เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเรื้อรังมานานภายในวัดโสธรได้ ก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามนโยบายทุกอย่าง ที่จะพัฒนาวัดให้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการออกมาเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ ได้บอกกับที่ประชุมว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นแล้ว ให้มันแล้วกันไป” จะไม่ติดใจเอาความซึ่งกันและกันต่อไป พระครูโสภณ สรกิจ กล่าวในที่สุด
ขณะที่ พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้เกี่ยวกับการจัดการภายในวัดโสธรนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอน ใครมีหน้าที่อะไรก็ให้ทำกันไป ปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วก็มีวิธีแก้ หากยังไม่เกิดก็ไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้อโหสิซึ่งกันและกันไป ไม่มีการถือโทษโกรธเคืองอะไรกัน เบื้องต้นนี้ต้องการให้เกิดความสงบเกิดขึ้น
