ตาก - แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้พม่า ตรวจชายแดน ทำให้ จนท.ท้องถิ่นต้องเร่งเคลียร์พื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเมยแต่ไม่ได้มีการแจ้งกับฝ่ายไทยล่วงหน้าจนเกือบเกิดความเข้าใจผิด พร้อมกับมีการเจรจาเพียงเพื่อต้องการเคลียร์พื้นที่ปรับภูมิทัศน์ต้อนรับแม่ทัพของพม่าเท่านั้น
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า วันนี้ (15 พ.ย.) พล.ต.แต๊ทไน่วิน แม่ทัพทหารภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐบาลทหารพม่า SPDC ได้เดินทางมาตรวจสถานการณ์และสั่งการ ทางยุทธการและยุทธวิธีทางทหารให้แก่ทหารพม่าที่ประจำการอยู่ชายแดนไทย-พม่า ที่จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จ.ตาก โดยคณะของ แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้พม่า ได้ตรวจเยี่ยมที่เมืองติ่นกานยิ่นหน่อง หรือ บางกาน โดยมี พ.ท.มินตาลิน ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 338 เมียวดี นำกำลังทหารให้การต้อนรับ
โดยวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ควบคุมกำลังทหารพม่า ได้มีการสั่งการให้ ทหาร-อส.และพลเรือนลงไปเคลียร์พื้นที่บริเวณเกาะกลางแม่น้ำเมย หรือเกาะโนแมนแลนด์ พื้นที่พิพาทไทย-พม่า ใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า เพื่อปรับสภาพพื้นที่และภูมิทัศน์ และขับไล่กลุ่มบุคคลที่เข้าไปอาศัยในเกาะกลางออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้แจ้งให้ คณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น TBC (แม่สอด-เมียวดี) ฝ่ายไทยทราบ ล่วงหน้า
ทำให้ พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ในฐานะประธาน TBC ฝ่ายไทยต้องนำกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าไปพื้นที่เช่นกันเพื่อแสดงการครอบครองสิทธิ และได้มีการเจรจาระหว่าง ประธาน TBC ไทยและพม่า และได้ตกลงร่วมในการพัฒนาพื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเมย โดยกวาดล้าง-ปราบปรามกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพ ที่อาศัยพื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเมยทำผิดกฎหมาย ทั้งใช้เป็นแหล่งพักเก็บยาเสพติด-สิ่งผิดกฎหมาย และการก่ออาชญกรรมและกบดานกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย
พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า TBC (แม่สอด-เมียวดี) กล่าวว่า พื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเมย ได้มีกลุ่มบุคคลที่ข้ามแม่น้ำเมยมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้พื้นที่ดังกล่าว ทำให้เราต้องมีการกวาดล้างและปราบปราม ไม่ให้มีการใช้พื้นที่ดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย และที่ผ่านมาได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้อาศัยอยู่บนเกาะกลาง ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้เกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียงของพื้นที่ และเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวตลาดริมเมย ซึ่งทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคง จะได้ร่วมมือกัน ดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง และจะมีการร่วมมือกับฝ่ายพม่า โดยจะมีการแจ้งภารกิจต่อกัน หากจะเข้าไปดำนเนินการ