จันทบุรี - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอาม จันทบุรี หันกลับมาใช้กลยุทธ์ลงแขกเกี่ยวข้าวแทนการว่าจ้างแรงงานกัมพูชา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเป็นการสร้างความสามัคคี
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่บริเวณทุ่งนาหนองปรือ หมู่ 2 ต.กระแจะ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพในการทำนากว่า 50 คน กำลังร่วมแรงร่วมใจลงเกี่ยวข้าวในท้องนาของ นางมาลี ป้องหมู่ อายุ 65 ปีพื้นที่กว่า 50 ไร่ที่ออกรวงสุกเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง
โดยชาวบ้านที่มาร่วมเกี่ยวข้าวในครั้งนี้ไม่ได้มีการจ้างวานแต่อย่างไร แต่กลับเป็นการออกแรงลงแขกเกี่ยวข้าว ตามวิถีพื้นบ้านสมัยโบราณ ที่ชาวนาในแต่ละหมู่บ้านจะมีการเอาแรงกันตั้งแต่การเริ่มไถหว่าน ดำนา จนถึงฤดูการเกี่ยวข้าว โดยการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเอาแรงช่วยกันทำนากันจนครบทุกบ้าน ส่วนวิถีชีวิตชาวบ้าน
ปัจจุบันมีองค์ประกอบและวิทยาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้วัฒนธรรมในชุมชนเปลี่ยนไป มีการจ้างแรงงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำนาแต่ละปี โดยเฉพาะแรงงานชาวกัมพูชา ที่ตกลงทำงานโดยไม่เกี่ยงค่าแรง จากสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนา ต้องขาดแคลนแรงงานเข้ามาเป็นตัวช่วยในฤดูเกี่ยวข้าว
นายนิพนธ์ เลิศธัญญา ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.กระแจะ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งยังคงยึดอาชีพการทำนาเลี้ยงชีพมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จึงได้มีแนวความคิดที่จะดึงเอาวิถีชนบทกลับมาปรับใช้กับแนวทางการประกอบอาชีพทำนาในสมัยปัจจุบัน จึงรวมตัวชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนาในหมู่บ้าน วางกลยุทธ์ลงแขกเกี่ยวข้าว ทดแทนการจ้างแรงงาน ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียค่าจ้างให้แก่แรงงานชาวไทยและแรงงานชาวกัมพูชา กลับมาไว้เป็นทุนเลี้ยงชีพ
นอกจากนี้ ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวยังเป็นประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนไทยที่มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างความสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่บ้านได้ ตลอดจนทำให้เกิดวัฒนธรรมและการขับร้องเพลงอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และยังเป็นการร่วมกันอนุรักษ์วิถีชุมชนให้คงอยู่คู่กับเกษตรกรไทยต่อไป
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่บริเวณทุ่งนาหนองปรือ หมู่ 2 ต.กระแจะ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพในการทำนากว่า 50 คน กำลังร่วมแรงร่วมใจลงเกี่ยวข้าวในท้องนาของ นางมาลี ป้องหมู่ อายุ 65 ปีพื้นที่กว่า 50 ไร่ที่ออกรวงสุกเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง
โดยชาวบ้านที่มาร่วมเกี่ยวข้าวในครั้งนี้ไม่ได้มีการจ้างวานแต่อย่างไร แต่กลับเป็นการออกแรงลงแขกเกี่ยวข้าว ตามวิถีพื้นบ้านสมัยโบราณ ที่ชาวนาในแต่ละหมู่บ้านจะมีการเอาแรงกันตั้งแต่การเริ่มไถหว่าน ดำนา จนถึงฤดูการเกี่ยวข้าว โดยการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเอาแรงช่วยกันทำนากันจนครบทุกบ้าน ส่วนวิถีชีวิตชาวบ้าน
ปัจจุบันมีองค์ประกอบและวิทยาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้วัฒนธรรมในชุมชนเปลี่ยนไป มีการจ้างแรงงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำนาแต่ละปี โดยเฉพาะแรงงานชาวกัมพูชา ที่ตกลงทำงานโดยไม่เกี่ยงค่าแรง จากสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนา ต้องขาดแคลนแรงงานเข้ามาเป็นตัวช่วยในฤดูเกี่ยวข้าว
นายนิพนธ์ เลิศธัญญา ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.กระแจะ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งยังคงยึดอาชีพการทำนาเลี้ยงชีพมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จึงได้มีแนวความคิดที่จะดึงเอาวิถีชนบทกลับมาปรับใช้กับแนวทางการประกอบอาชีพทำนาในสมัยปัจจุบัน จึงรวมตัวชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนาในหมู่บ้าน วางกลยุทธ์ลงแขกเกี่ยวข้าว ทดแทนการจ้างแรงงาน ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียค่าจ้างให้แก่แรงงานชาวไทยและแรงงานชาวกัมพูชา กลับมาไว้เป็นทุนเลี้ยงชีพ
นอกจากนี้ ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวยังเป็นประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนไทยที่มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างความสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่บ้านได้ ตลอดจนทำให้เกิดวัฒนธรรมและการขับร้องเพลงอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และยังเป็นการร่วมกันอนุรักษ์วิถีชุมชนให้คงอยู่คู่กับเกษตรกรไทยต่อไป
