แก๊งยานรกหักหลังกันเองยิงสองผัวเมียตายทั้งกลม

อุบลราชธานี- แก๊งยานรกนัดเคลียร์บัญชีในโรงงานร้าง แต่ไม่ลงตัวสาดกระสุน 9 มม.และ 11 มม.ปลิดชีพสองผัวเมียตายทั้งกลม

เมื่อเวลา 04.30 น.วันนี้ (13 พ.ย.) ร.ต.อ.จินดา ทองบ้านทุ่ง ร้อยเวร สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายริมถนนวารินชำราบ-เดชอุดม บริเวณหลัก กม.ที่ 16 ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ และมีผู้เสียชีวิตเป็นชายและหญิง 2 คน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผกก.พ.ต.ท.อุดร มณีสาย รอง ผกก.สส.และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรมรุดไปยังที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางเข้าโรงงานทำกระเป๋าหนัง ซึ่งถูกทิ้งร้างกว่า 10 ปี พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีโอสีน้ำตาลหมายเลขทะเบียน กนล 831 ยโสธร ล้มคว่ำตะแคง โดยใกล้กันมีศพ น.ส.กัลยา เศรษฐมาตย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 1 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน นอนเสียชีวิตลักษณะคว่ำหน้าอยู่บนกองเศษปูนซีเมนต์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.ที่กลางศรีษะ 3 นัด และแผ่นหลังอีก 3 นัด เสียชีวิตคาที่

ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบศพ นายนัฐพงษ์ โดสนั่น อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186 หมู่ที่ 11 ต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ นอนเสียชีวิตลักษณะตะแคงคว่ำศรีษะพาดแขนซ้าย มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ที่รอบศรีษะจำนวน 6 นัด และตามลำตัวอีก 3 นัด โดยบริเวณพื้นในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนทั้ง 9 มม.และ 11 มม.ตกอยู่เกลื่อนกลาดรวม 15 ปลอก จึงเก็บรวบรวมใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวนหามือปืน

จากการสอบสวนเบื้องต้นไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเวลาวิกาล ประกอบกับโรงงานร้างตั้งอยู่ห่างจากชุมชน แต่จากการตรวจสอบประวัตินายนัฐพงษ์มีส่วนพัวพันกับแก๊งวิ่งราวและลักทรัพย์ รวมทั้งแก๊งค้ายานรก กระทั่งถูกศาลสั่งลงโทษจำคุกหลายปี และถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2550 ต่อมาได้รู้จักกับ น.ส.กัลยา ซึ่งหย่าร้างกับสามีเก่า จึงคบหาเป็นสามีภรรยา โดย น.ส.กัลยาไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง

จึงสันนิษฐานว่า ก่อนเสียชีวิตสองผัวเมียนัดแนะกับเพื่อนร่วมแก๊งมาทำความตกลงเรื่องผลประโยชน์มืดยังจุดเกิดเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงถูกเพื่อนร่วมแก๊งกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตทั้งคู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตามจับเพื่อนร่วมแก๊งที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ต่อมาในตอนสายวันเดียวกัน นางระเบียบ โดสนั่น อายุ 49 ปี มารดานายนัฐพงษ์ได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยระบุว่า บุตรชายออกจากบ้านไปนานหลายปี ไม่ค่อยกลับมาหา จึงไม่ทราบว่าลูกชายไปทำอาชีพอะไร และไม่รู้สาเหตุการเสียชีวิตของบุตรชายครั้งนี้ พร้อมขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีในวันเดียวกันด้วย