xs
xsm
sm
md
lg

“เมืองปาย”ป่วน!ทุนใหญ่-เล็กรุมทึ้งรุกลำน้ำ-ป่า ยึดขุมทรัพย์ถนนคนเดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำปาย ที่นับวันจะแคบลงเรื่อย ๆ ขณะที่มีที่งอกเกิดขึ้นทั้ง 2 ฟากฝั่งตลอดเวลา ตามมาด้วยรีสอร์ทน้อยใหญ่ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ทุนใหญ่-น้อยรุมทึ้งเมืองปาย รับท่องเที่ยวโตแบบไร้ทิศทาง รีสอร์ตขึ้นเกลื่อนเมือง ก่อปัญหารุกที่ป่า – ลำน้ำปาย แถมถนนคนเดิน กลายเป็นแหล่งผลประโยชน์นอกระบบ เก็บเงินรายวันกันบานฉ่ำวันละกว่าแสนบาท เดือนละ 3.6 ล้าน ขณะที่ยาเสพติดเกลื่อน

“พื้นที่อำเภอปายมีโฉนดแค่ 10% ที่เหลือเป็นที่ป่าทั้งหมด แต่มาถึงวันนี้ มีรีสอร์ต เกสต์เฮ้าส์เกิดขึ้นเต็มไปหมด คนมีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งดารา นักร้อง นักการเมือง ข้าราชการ ฯลฯ ล้วนมีที่ดินที่เมืองปายกันหมด แม้แต่ถนนคนเดินที่จัดกันทุกวัน ก็กลายเป็นแหล่งผลประโยชน์นอกระบบวันละกว่า 1.2 แสนบาท เดือนละ 3.6 ล้าน ปีละ 43 ล้านกว่าบาท” เป็นบทสรุปที่คนในท้องถิ่น อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน สะท้อนกับ “ASTVผู้จัดการ” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

เป็นบทสรุปที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกของแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะไฮซีซัน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทะลักเข้าปาย วันละนับแสนคน จนทำให้เกิดปัญหาน้ำมันหมดเมือง – ข้าวแกงจานละ 70 บาท เมื่อปีกลายมาแล้ว

ในปีนี้ (2553) ก็เช่นกัน แนวโน้มนักท่องเที่ยวยังคงทะลักเข้าเมืองปายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ที่จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มไม่น้อยกว่า 15% แม้ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวทั่วโลกทรุดต่ำลงก็ตาม ซึ่งไฮซีซันปีนี้ ก็มัอตราการจองห้องพักเข้ามาแล้วกว่า 70% ทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า การท่องเที่ยวของปายตลอดปี 53 จะขยายตัวจากปี 51 ไม่น้อยกว่า 20%เป็นอย่างต่ำ

จากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของปายนี้เอง ทำให้นักลงทุนทะลักเข้าพื้นที่ไม่หยุด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ผุดขึ้นใหม่ตลอดเวลา จนล่าสุด ณ ตุลาคม 2552 อ.ปาย มีห้องพักเกิดขึ้นแล้วประมาณ 2,300 ห้อง เฉพาะปลายปี 51 – ปัจจุบัน มีโรงแรม รีสอร์ตใหม่เกิดขึ้นกว่า 10 แห่ง รวมเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่ปัญหาเหล่านี้ กลับไม่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดในเวทีการประชุมแก้ปัญหา-จัดระเบียบการท่องเที่ยวปาย ที่นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเรียกประชุมเมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมด้วยตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายอัครเดช ตาปราบ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลปาย เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ มีเพียงการนำปัญหาเรื่องการขึ้นราคาค่าบริการต่าง ๆ ทั้งที่พัก-อาหาร มาถกเถียงกัน นำมาซึ่งข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้ารองรับไฮซีซัน 52 อย่างเร่งด่วน 7 ประเด็นคือ 1.การรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว 2.จัดระเบียบการจราจรและการป้องกันอุบัติเหตุ 3.การให้บริการของผู้ประกอบการร้านอาหาร 4.การให้บริการของผู้ประกอบการที่พัก 5.ปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิง 6.การรักษาความสะอาดและขยะมูลฝอย 7.การรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรม อ.ปาย
แต่ปมปัญหาที่แท้จริงของเมืองปาย กลับถูกซุกไว้ใต้พรม !

ทั้งเรื่องลำน้ำปาย ที่แคบเล็กลงทุกวัน เพราะ 2 ฟากฝั่ง มีรีสอร์ตผุดขึ้นใหม่ตลอดเวลา มีพื้นที่ “งอก” ทั้งตามธรรมชาติ และฝีมือนายทุน รุกล้ำเข้าไปในเขตลำน้ำทั้ง 2 ด้าน ที่ดินหลายแปลงมี “หลักหมุด” อยู่ในลำน้ำปาย รอที่งอกออกไปชน ฯลฯ

รวมทั้งปัญหา “มาเฟียถนนคนเดิน” ที่เทศบาลฯจัดให้ถนนชัยสงคราม และถนนรังศิริญานนทร์ ต.เวียงใต้ อ.ปาย เป็นถนนคนเดิน ให้ผู้ประกอบการเปิดแผงจำหน่ายสินค้าที่ระลึกทุกคืน ที่หลักการเดิมต้องให้คนท้องถิ่น เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะจัดสรรพื้นที่ให้คนต่างอำเภอของแม่ฮ่องสอน ตามด้วยผู้ค้าจากต่างจังหวัด แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการบนถนนคนเดินร่วม 600 กว่าราย (จากที่ยื่นความจำนง 800 กว่าราย) เกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นพ่อค้าจากต่างถิ่น กับข้าราชการเทศบาลฯ ที่นำพื้นที่ไปเซ้งต่อ จากค่าเช่า 500 บาท/ปี/พื้นที่ 1 คูณ 1 เมตร เพิ่มเป็นหลายหมื่นบาทในขณะนี้

นอกจากนี้ยังมีการจัดเก็บนอกระบบอีก 200 บาท/แผง/คืน หรือไม่น้อยกว่า 120,000 บาท/คืน 3,600,000 บาท/เดือน หรือ 43,200,000 บาท/ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เทศบาลฯ รับรู้ถึงเรื่องราวเหล่านี้

ไม่เพียงเท่านั้น ในอดีตนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอำเภอปายทั้งช่วงฤดูฝน (กรีนซีซัน) – หนาว ว่ากันว่า 95% ล้วนเข้ามาเสพยาเสพติด ทั้งกัญชา ยาบ้า เฮโรอีน โดยเฉพาะกัญชา ที่มีขายตามเกสต์เฮ้าส์หลายแห่ง ที่สอดใส้บุหรี่จำหน่ายกันในราคา 80-100 บาท ขณะที่ยาบ้า มีจำหน่ายกันเกร่อแถบบ้านป่าคา ต.แม่นาเติง ในราคาเม็ดละ 200-250 บาท




กำลังโหลดความคิดเห็น