จันทบุรี - รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเดินทางประชุมร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนจันทบุรี หลังมีผู้ประกอบการส่งออกจำนวนกว่า 200 รายได้รับผลกระทบไม่สามารถส่งสินค้าอุปโภค บริโภคออกไปได้ทำให้ขาดทุนนับ 100 ล้านบาท
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายมานพ วีระอาชากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ผู้ประกอบการส่งออก นายอำเภอ ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการตามแนวชายแดนไม่สามารถส่งสินค้าออกไป ประเทศกัมพูชา จีน และเวียดนามได้ทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียดุลการค้าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ทำให้สินค้าจำพวกเครื่องอุปโภค บริโภค ผลไม้ และเครื่องมือการเกษตร รวมถึงออเดอร์ที่มีการสั่งจองล่วงหน้าเป็นปีต้องยกเลิกไป
ในวันนี้ทางจังหวัดจึงต้องมีการประชุมร่วม เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการส่งออก พ่อค้า แม่ค้า ที่อยู่ตามแนวชายแดนจันทบุรีได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่นที่มีต่อกันมายาวนานของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ แม้การค้าขายตามแนวชายแดนของพ่อค้า แม่ค้าทั้งไทยและกัมพูชาจะยังคงมีการค้าขายตามปกติก็ตาม
แต่ผู้ประกอบการที่มีการนำสินค้าส่งออก เช่นผลไม้ ลำไย กว่า 200 รายยังวิตกกังวลว่าประเทศกัมพูชาจะมีการเรียกแรงงานกลับประเทศหรือไม่ ทำให้ผู้ประกอบการต้องได้รับผลกระทบโดยตรง
นายมานพ กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรียังคงเป็นไปตามปกติพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชายังสามารถที่จะทำการค้าขาย และเข้ามาใช้แรงงานในการเก็บลำไยได้เหมือนเดิมโดยไม่มีการปิดด่านแต่อย่างไร
ขณะนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาเก็บลำไยที่ฝั่งไทยวันหนึ่งประมาณ 20,000 คนต่อวัน ส่วนของความมั่นคงทางฝ่ายทหารทั้ง 2 ประเทศ ยังคงไม่มีการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่แต่อย่างไร
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายมานพ วีระอาชากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ผู้ประกอบการส่งออก นายอำเภอ ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้ประกอบการตามแนวชายแดนไม่สามารถส่งสินค้าออกไป ประเทศกัมพูชา จีน และเวียดนามได้ทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียดุลการค้าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ทำให้สินค้าจำพวกเครื่องอุปโภค บริโภค ผลไม้ และเครื่องมือการเกษตร รวมถึงออเดอร์ที่มีการสั่งจองล่วงหน้าเป็นปีต้องยกเลิกไป
ในวันนี้ทางจังหวัดจึงต้องมีการประชุมร่วม เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการส่งออก พ่อค้า แม่ค้า ที่อยู่ตามแนวชายแดนจันทบุรีได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่นที่มีต่อกันมายาวนานของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ แม้การค้าขายตามแนวชายแดนของพ่อค้า แม่ค้าทั้งไทยและกัมพูชาจะยังคงมีการค้าขายตามปกติก็ตาม
แต่ผู้ประกอบการที่มีการนำสินค้าส่งออก เช่นผลไม้ ลำไย กว่า 200 รายยังวิตกกังวลว่าประเทศกัมพูชาจะมีการเรียกแรงงานกลับประเทศหรือไม่ ทำให้ผู้ประกอบการต้องได้รับผลกระทบโดยตรง
นายมานพ กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรียังคงเป็นไปตามปกติพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชายังสามารถที่จะทำการค้าขาย และเข้ามาใช้แรงงานในการเก็บลำไยได้เหมือนเดิมโดยไม่มีการปิดด่านแต่อย่างไร
ขณะนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาเก็บลำไยที่ฝั่งไทยวันหนึ่งประมาณ 20,000 คนต่อวัน ส่วนของความมั่นคงทางฝ่ายทหารทั้ง 2 ประเทศ ยังคงไม่มีการเพิ่มกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่แต่อย่างไร