ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักงานส่งเสริมการลงทุนภาคที่ 4 สรุปการลงทุนในภาคตะวันออกช่วง 9 เดือนพบมีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 9.2 หมื่นล้านบาท จากโครงการลงทุนทั้งสิ้น 233 โครงการ โดยชลบุรี ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากสุด รองลงมา คือ ระยอง
สำนักงานส่งเสริมการลงทุนภาคที่ 4 ได้สรุปภาวะการลงทุนในภาคตะวันออกช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2552 โดยพบว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมลงทุนรวมทั้งสิ้น 233 โครงการ และมีมูลค่าการลงทุนรวม 9.2 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงาน 25,866 คน โดยจังหวัดชลบุรี มีโครงการที่ได้รับอนุมัติมากเป็นอันดับ 1 ถึง 100 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 42.92 ของจำนวนโครงการทั้งหมด และมีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 4.26 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.39 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด
อันดับ 2 คือ จังหวัดระยอง มีจำนวน 73 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 31.33 ของจำนวนโครงการทั้งหมด และมีเงินลงทุน 3.51 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38.17 ของโครงการทั้งหมด และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 พบจำนวนโครงการลงทุนลดลงร้อยละ 23.95 ส่วนมูลค่าการลงทุนลดลงถึงร้อยละ 75.56
ทั้งนี้ ภาวะการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉพาะเดือนกันยายน 2552 มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 36 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 3.44 หมื่นล้านบาท และมีการจ้างงานรวม 6,322 คน
สำหรับพื้นที่ที่มีการลงทุนมากอันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี มี 14 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 38.88 ของจำนวนโครงการทั้งหมด และมีเม็ดเงินลงทุนจำนวน 2.47 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 71.74 ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดในเดือนกันยายน 2552 โดยมีการจ้างงานมากถึง 4,001 คน
โครงการที่มีเงินลงทุนมากที่สุดของจังหวัดชลบุรีในช่วงเดือนกันยายน 2552 คือ โครงการผลิตรถยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก จังหวัดชลบุรี มีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 2.01 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงานมากกว่า 2 พันคน รองลงมาคือ โครงการผลิตเตาไมโครเวฟ ตู้ล้างจาน แอร์ ตู้เย็น ของบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา เงินลงทุน 3.70 พันล้านบาท จ้างแรงงาน 1,253 คน
โครงการผลิต Gasoline Engine ของบริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ตั้งอยู่ใน นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ภายใต้เงินลงทุน 247.40 ล้านบาท มีจ้างแรงงาน 19 คน
อันดับ 2 คือ จังหวัดระยอง มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 12 โครงการคิดเป็นร้อยละ 33.33 ของจำนวนโครงการทั้งหมด และมีเงินลงทุน 4.22 พันล้านบาท หรือร้อยละ 12.25 ของเม็ดเงินลงทุนทั้งหมด โดยมีการจ้างงานทั้งสิ้น 1,100 คน
อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจำนวน 8 โครงการ แต่เม็ดเงินลงทุนกลับมากกว่าจังหวัดระยอง กล่าวคือ มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 5.24 พันล้านบาท มีการจ้างงาน 988 คน อันดับ 4 จังหวัดปราจีนบุรี มี 2 โครงการ เม็ดเงินลงทุน 259.40 ล้านบาท และมีการจ้างงานทั้งสิ้น 233 คน
ส่วนโครงการที่มีเม็ดเงินลงทุนมากที่สุดในภาคตะวันออก ประจำเดือนกันยายน 2552 นอกจากจะเป็นโครงการผลิตรถยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก จังหวัดชลบุรีที่มีเม็ดเงินลงทุนมากเป็นอันดับ 1 แล้วโครงการผลิต เตาไมโครเวฟ ตู้ล้างจาน แอร์ ตู้เย็นของบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ยังสูงเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 คือ โครงการผลิต Steel Plate ของบริษัท สหวิริยา เพลทมิล จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีเม็ดเงินลงทุน 2.8 พันล้านบาท และมีการจ้างแรงงาน 460 คน
