สระแก้ว - ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ส่ง นางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ที่จะเดินทางกลับออกไปยังประเทศกัมพูชา
วันนี้ (6 พ.ย. 52 ) นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เดินทางมาช่องทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.คลองใหญ่ จังหวัดสระแก้ว เพื่อรอรับ และ ส่งนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ที่จะเดินทางกลับออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยมี นายเนตร เสรี กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย มาร่วมรอรับส่ง พร้อมระดับผู้บริหารหน่วยชายแดนของไทยอีกกว่า 20 หน่วย
นายศานิตย์ เผยถึงกรณีมีปัญหาภายในประเทศกัมพูชา – ไทย นั้น ว่า ทางด้านชายแดนจังหวัดสระแก้ว ไม่มีปัญหา เรามีความพร้อมร่วมความสามัคคีกับประชาชนกัมพูชา มาตลอดที่ร่วมกันค้าขาย รักใคร่กันดีเหมือนเมืองพี่เมืองน้อง โดยเฉพาะ การค้าขาย ชาวกัมพูชายังเข้ามาค้าขายเหมืองเดิมตามปกติ ที่ไม่มีปัญหาต่อกัน แม้ว่าชาวกัมพูชายังวิตกหวั่นกลัวว่าฝ่ายไทยจะทำการปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกนั้นเป็นส่วนน้อย และไม่มีการปิดด่านอย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องระบบการค้าระหว่างกันคนไทยกับชาวกัมพูชา หากเกิดการมีผลกระทบขึ้นมาตามความจริง ที่ผู้ค้ากับผู้ขาย ก็ต้องร่วมรู้เห็นด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องของระบบการค้า ทีมีมานาน ดังนั้นจึงขอรับรองได้ว่า ด้านชายแดนถาวรบ้านคลองลึก ยังไม่มีเหตุและสถานการณ์ยังอยู่ตามปกติ
จนกระทั่งเวลา 14.30 น. นางยู ออย เอกอัคราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทยเดินทางด้วยรถเก๋ง เข้ามาด่านพรหมแดนศุลกากร โดยมีนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายเนตร เสรี กงสุลใหญ่กัมพูชาพร้อมคณะนายทหารข้าราชการทุกส่วนเข้าร่วมเพื่อรับและส่งเอกอัคราชทูตหญิงกัมพูชา แต่เอกอัคราชทูตกัมพูชา ไม่ยอมเปิดประตูรถรถเก๋ง แม้จะมีกงสุลใหญ่กัมพูชา เข้าไปเพื่อเปิดประตูรถ และไม่ยอมเปิด แต่พยามยามที่จะบอกให้คนขับรถพยายามขับรถออกไปฝั่งกัมพูชา โดยไม่สนใจให้ความสำคัญต่อผู้ว่าและคณะข้าราชการทหารตลอดจนกงสุลใหญ่แม้แต่น้อย โดยมีข้าราชการฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาเข้ามาปิดกั้นกันนำรถเอกอัคราชทูตของตนเร่งรถยนต์เก๋งออกไปอย่างรวดเร็ว