ระยอง - แกนนำเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก “สุทธิ อัชฌาศัย” เตรียมยื่น “รมว.มหาดไทย” ตรวจสอบมูลนิธิกองทุนคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม อำเภอบ้านฉาง-มาบตาพุด หลังพบการใช้จ่ายเงิน 37 ล้านบาทไม่โปร่งใส แฉแหล่งได้มาของเงินมูลนิธิฯ เช่น เอสซีจี 10 ล้าน-ปตท.10 ล้าน-รวมทั้งกลุ่มโรงงานรวมทั้งหมด 37 ล้าน พร้อมทั้งคำถามเงิน 37 ล้านบาท หายไปไหนหมด
วันนี้ (5 พ.ย.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยว่า กลุ่มระยองสมานฉันท์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ชาวมาบตาพุด ออกมาแสดงความคิดเห็น กรอกแบบสอบถามกรณีการระงับชั่วคราว 76 โครงการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง กว่า 10,000 ชุดยื่นให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ตนอยากจะเรียกร้องให้กลุ่มระยองสมานฉันท์ เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด 10,000 ชื่อที่ยื่นให้รัฐบาล เพราะอยากจะดูหมายเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลักว่าเป็นคนระยองหรือไม่
รวมทั้งกรณีที่มรการนำเอากุ้ง หอย ปู ปลา ไปให้นายกรัฐมนตรีรับประทานนั้นก็เอามาจากไหน ก่อนที่จะไปจับและนำไปต้มให้นายกรัฐมนตรีรับประทาน ตรงนี้น่าจะมีการพิสูจน์ต่อหน้าสื่อมวลชน เพราะเราไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรี กินกุ้งระยองสมานฉันท์เข้าไปแล้วจะปลอดภัยหรือไม่
นายสุทธิกล่าวต่อว่า กลุ่มระยองสมานฉันท์ มีการเปลี่ยนชื่อออกมาเคลื่อนไหวหลายครั้ง สมัยเมื่อปี 2550 กลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องที่ตนชุมนุมคัดค้านการตั้งโรงไฟฟ้า ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายพลวัตร ชยานุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองสมัยนั้นดำเนินคดีตน
ต่อมาศาลปกครองจังหวัดระยองได้มีคำสั่งประกาศให้พื้นที่มาบตาพุด เป็นเขตควบคุมมลพิษ กลุ่มระยองสมานฉันท์ก็ออกมาเคลื่อนไหวอีก โดยไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกครั้งที่มีกรณีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะออกมาเคลื่อนไหวทุกครั้ง โดยไม่ทราบจุดยืนของกลุ่มระยองสมานฉันท์
นายสุทธิกล่าวว่า กลุ่มระยองสมานฉันท์หลายคนมีตำแหน่งในกลุ่มมูลนิธิกองทุนคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมมาบตาพุด บ้านฉาง ซึ่งพบว่ามูลนิธิกองทุนฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนเงินจากการนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 10 ล้านบาท เอสซีจี จำนวน 10 ล้านบาท ปตท.จำนวน 10 ล้านบาท รวมทั้งกลุ่มโรงงานอื่นๆรวมทั้งหมด 37 ล้านบาทโดยนายอิทธิพล แจ่มแจ้ง ประธานมูลนิธิกองทุนฯ ใช้เงินบริหารตั้งแต่ปี 2550 ตนขอตั้งคำถามว่าเงินจำนวน 37 ล้านบาทหายไปไหนหมด
“ขณะนี้ผมเตรียมยื่นหนังสือให้มีการตรวจสอบมูลนิธิฯ ดังกล่าวว่าตั้งขึ้นมาใช้เงินตามวัตถุประสงค์หรือไม่ พร้อมนำหลักฐานของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และที่กำลังเตรียมการที่จะแจ้งความกับมูลนิธิฯ ดังกล่าว และมูลนิธิฯดังกล่าวมีกลุ่มทุนเกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรมเป็นที่ปรึกษา ผมสรุปได้ว่าการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มระยองสมานฉันท์ครั้งนี้มีเบื้องหลัง พร้อมที่จะยื่นเรื่องให้กองทะเบียนกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบมูลนิธิดังกล่าวรวมถึงที่มาการใช้จ่ายเงินกลุ่มระยองสมานฉันท์”
